บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองแนวโน้มการเคลื่อนไหวของค่าเงินในสัปดาห์หน้า(3-7 ส.ค.) คาดว่าจะมีการทยอยไหลกลับเข้ามาของสภาพคล่องหลังจากการเบิกถอนเงินสดของลูกค้าในช่วงสิ้นเดือน ค่าเงินบาทในประเทศอาจเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบประมาณ 33.90-34.20 บาท/ดอลลาร์
ปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ค.ของกระทรวงพาณิชย์, ทิศทางของสกุลเงิน, ตลาดหุ้นในภูมิภาค ตลอดจนสัญญาณการเข้าดูแลเสถียรภาพค่าเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ขณะที่ทิศทางของเงินดอลลาร์ขึ้นอยู่กับข่าวผลประกอบการไตรมาส 2/52 ของบริษัทจดทะเบียน และการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ เช่นอัตราการว่างงาน, ดัชนี ISM ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนก.ค., ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) และดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐานเดือนมิ.ย. เป็นต้น
ขณะที่การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทกลับไปอ่อนค่ากว่าระดับ 34 บาท/ดอลลาร์ แม้มีแรงซื้อเงินดอลลาร์ในช่วงต้นสัปดาห์ นับว่าเป็นการเข้าดูแลเสถียรภาพเงินบาทของ ธปท. เงินบาทปรับตัวในทิศทางที่แข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับการเข้าซื้อสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติ
อย่างไรก็ตาม เงินบาทต้องลดช่วงบวกลงและกลับไปอ่อนค่ากว่าระดับ 34 บาท/ดอลลาร์ในช่วงกลางสัปดาห์ หลังจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่อ่อนแอเกินคาดของสหรัฐได้ถ่วงความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐลง นอกจากนี้เงินบาทยังมีปัจจัยลบจากแรงซื้อเงินดอลลาร์ในช่วงปลายเดือนจากกลุ่มผู้นำเข้าอีกด้วย