กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า จีดีพีไตรมาส 2 ของสหรัฐหดตัวลงในอัตรา 1%ต่อปี น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะหดตัว 1.5% นับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปีของสหรัฐ กำลังทุเลาลง
ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ที่ออกมาดีเกินคาดเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ และมีขึ้นหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่สะท้อนให้เห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐในเดือนมิ.ย.พุ่งสูงสุดในรอบ 8 ปีที่ 11% ซึ่งถือเป็นอีกหลักฐานหนึ่งที่ตอกย้ำให้เห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่เคยเลวร้ายถึงขีดสุดนับตั้งแต่ยุคเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่นั้นเริ่มกลับมามีเสถียรภาพแล้ว
โจเอล นารอฟฟ์ หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Naroff Economic Advisors Inc "ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐเริ่มทุเลาลง เราคาดว่าเศรษฐกิจจะเริ่มหดตัวน้อยลงในไตรมาสที่ 2 และจากนั้นจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมและอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพขึ้น โดยเฉพาะยอดขายบ้านที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกันถึง 3 เดือน นอกจากนี้ ความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทั่วโลกจะช่วยให้ยอดส่งออกของสหรัฐกระเตื้องขึ้น และจะทำให้ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 70 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ ค่อยๆฟื้นตัวขึ้น"
ด้านนักวิเคราะห์จากดอยช์แบงก์ ซีเคียวริตี้ และโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์กล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยครั้งล่าสุดสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจจะเริ่มขยายตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และสอดคล้องกับที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เชื่อมั่นว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะสิ้นสุดลงในปีนี้ บลูมเบิร์กรายงาน