ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ กล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าจะหลุดพ้นจากภาวะถดถอย เนื่องจากนายจ้างยังคงปรับลดพนักงานอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเมื่อวานนี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะรายงานผลผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ที่หดตัวลงในอัตรา 1% ต่อปี ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะหดตัว 1.5% ก็ตาม
โดยรายงานดังกล่าวนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปีของสหรัฐกำลังทุเลาลง เพราะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สภาคองเกรสบังคับใช้ไปเมื่อเดือนก.พ.เริ่มปรากฏผลเป็นรูปธรรม และช่วยให้เจ้าของบ้านไม่ต้องถูกยึดทรัพย์หลุดจำนอง
"มาตรการต่างๆที่เราได้ดำเนินการมาตลอดทั้ง 6 เดือนที่ผ่านมาได้ช่วยทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวจากภาวะถดถอยบ้างแล้ว" โอบามากล่าว "แต่จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาทำให้เราเห็นว่าเศรษฐกิจต้องขยายตัวให้ได้เสียก่อน ตลาดแรงงานจึงจะสามารถฟื้นตัวขึ้นได้"
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจสหรัฐสูญเสียแรงงานไป 6.5 ล้านตำแหน่ง นับตั้งแต่เริ่มเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นในเดือนธ.ค. 2550 ซึ่งนักวิเคราะห์จากโพลล์ของบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า อัตราว่างงานจะพุ่งทะลุ 10% ในช่วงต้นปี 2552 ขณะที่อัตราว่างงานของสหรัฐในเดือนมิ.ย.อยู่ที่ระดับ 9.5%
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดรายงานตัวเลขว่างงานประจำเดือนกรกฎาคมในวันศุกร์ที่ 7 สิงหาคมนี้ตามเวลาท้องถิ่น