นายกฯเผยผลสำรวจตัวเลขต่างๆระบุประเทศไทยมีสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ข่าวเศรษฐกิจ Sunday August 2, 2009 11:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" ว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการประมวลข้อมูลหลายอย่างทำให้เราเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เริ่มต้นจากการที่มีการไปสำรวจความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงอุตสาหกรรมและแวดวงนักลงทุนก่อน มีงานสำรวจอยู่ 3 ชิ้นที่คิดว่าน่าจะเป็นสัญญาณที่ดี งานแรกก็คือเป็นเรื่องของหอการค้าญี่ปุ่นไปสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจของผู้ประกอบการสัญชาติญี่ปุ่นในประเทศไทย ญี่ปุ่นนั้นเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สิ่งที่ปรากฏออกมาชัดเจนจากการสำรวจก็คือว่าความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการประกอบการในครึ่งปีหลังของปี 2552 นี้ เทียบกับครึ่งแรกของปีนี้ ผู้สำรวจส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นว่าจะดีขึ้นเกือบในทุกภาคอุตสาหกรรม เพราะฉะนั้น อันนี้ก็เป็นสัญญาณที่น่าจะสอดคล้องกับการประมาณการ และการประเมินตัวเลขทางเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เชื่อว่าในแต่ละไตรมาสหรือทุก 3 เดือนที่ผ่านไป แม้ว่าเศรษฐกิจจะยังหดตัวอยู่ในช่วงประมาณ 9 เดือนแรกของปีนี้ แต่ว่าจะดีขึ้นโดยลำดับ และก็ยังจะกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ใน 3 เดือนสุดท้าย

ในส่วนที่ 2 คือ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเองก็ได้มีการจัดทำผลการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ก็พบเช่นเดียวกันครับว่าตัวเลขในแง่ของความเชื่อมั่นในเรื่องของผู้ประกอบการที่มีต่ออุตสาหกรรม ดัชนีความเชื่อมั่นก็ดีขึ้นมาในเดือนมิถุนายน จริงอยู่ครับระดับความเชื่อมั่นอาจจะยังต่ำอยู่ แต่ข้อเท็จจริงก็คือว่าระดับความเชื่อมั่นนี้ก็สูงสุดในรอบ 17 เดือน เหตุผลที่มีความเชื่อมั่นมากขึ้นนี้ก็เพราะว่าในเรื่องของปริมาณคำสั่งซื้อและยอดขาย ซึ่งขณะนี้ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นโดยลำดับ เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่ยืนยันว่าในหมู่ผู้ประกอบการเองก็มีความเชื่อว่าเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังนั้นเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น

สุดท้ายเป็นการสำรวจก็เป็นในส่วนของสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย ที่เรียกว่า CEO Forum อันนี้ก็มีการไปสำรวจในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ จะเป็นชิ้นส่วนรถยนต์ จะเป็นอสังหาริมทรัพย์ อาหารแช่แข็ง และผู้บริหารระดับสูงในส่วนอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกันครับว่า มองไปข้างหน้าส่วนใหญ่เห็นว่า เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแล้ว และคาดว่าจะเริ่มมีการลงทุนเพิ่มขึ้น มีการได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ซึ่งก็จะเริ่มต้นจากนี้ไป

นอกจากการสำรวจความคิดเห็นต่าง ๆ แล้วก็มีตัวเลขหลายตัวอีกที่เกี่ยวข้องกับภาวะเศรษฐกิจที่คิดว่าเป็นตัวบ่งบอกว่าสถานการณ์ก็น่าจะดีขึ้นโดยลำดับ ไม่ว่าจะเป็นกรณีของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งก็ยังอยู่ระดับที่สูงนะครับและเพิ่มขึ้นมาโดยลำดับ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของดัชนีการว่างงาน ที่ดูว่าปัญหาการว่างงานซึ่งกังวลกันมากเมื่อช่วงต้นปีว่าจะรุนแรงมาก และก็ดูรุนแรงอยู่ในช่วง 2 — 3 เดือนแรก ระยะหลังนั้นตัวเลขจากการสำรวจเรื่องของการว่างงานนั้น สถานการณ์ก็เริ่มบรรเทาลงมาเช่นเดียวกัน

และตัวเลขสุดท้ายคือว่าในการประชุม ครม.เศรษฐกิจในวันพุธที่ผ่านมา กระทรวงการคลังก็ได้รายงานครับว่า การจัดเก็บรายได้ขณะนี้จากเดิมซึ่งคาดการณ์ไว้เมื่อก่อนหน้านี้ ว่าจะเก็บได้ต่ำกว่าเป้าเกือบ 300,000 ล้านนี้ บัดนี้คิดว่าจะต่ำกว่าเป้าเพียงประมาณ 200,000 ล้านนะครับ ก็คือว่าจากในช่วงประมาณเดือนถึง 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้มีความวิตกกังวลกันค่อนข้างมากเกี่ยวกับการจัดเก็บรายได้ บัดนี้จากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ดีขึ้น อากรขาเข้าที่ดีขึ้น แล้วก็ภาษีตัวอื่น ๆ ด้วย ก็บ่งบอกว่าสถานการณ์นั้นอาจจะไม่เลวร้ายเหมือนอย่างที่หลายฝ่ายกังวลกัน เพราะฉะนั้นนี่คือภาพรวมที่น่าจะเป็นการยืนยันว่า ขณะนี้เราเริ่มมองเห็นสัญญาณที่ดีในทางเศรษฐกิจ แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและเดินหน้าในการที่จะให้เกิดความมั่นใจว่าการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจนั้นเดินไปได้ตามแผน

สำหรับปัญหาของธุรกิจต่าง ๆ ก็สมควรจะได้รับการแก้ไข เพราะฉะนั้นการแก้ไขในทุกภาคส่วนก็เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ภาคธุรกิจอย่างเช่น อัญมณี ซึ่งก็ได้เรียกร้องในเรื่องของการยกเว้นภาษีในส่วนที่เกี่ยวข้องกับวัตถุดิบ ภาษีมูลค่าเพิ่มต่าง ๆ หลังจากได้ปรึกษาหารือต่าง ๆ กันแล้ว คณะรัฐมนตรีก็ได้อนุมัติไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งอันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราเชื่อครับว่า จะสามารถส่งเสริมให้ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางในเรื่องของอุตสาหกรรมนี้ได้ อย่างนี้เป็นต้น

ในส่วนของภาคการเกษตร การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลำไย ก็ได้มีการอนุมัติงบประมาณไป อนุมัติสินเชื่อไป และเท่าที่ตรวจสอบดูขณะนี้ แนวโน้มราคาก็เริ่มกระเตื้องขึ้นมา ในส่วนของการเดินหน้าต่อไปในอนาคต ระบบการประกันราคาข้าว จากนี้ไปก็จะเริ่มเป็นการไปจดทะเบียนเกษตรกร ว่าเกษตรกรทั้งหลายอยู่ที่ไหน ปลูกข้าวในข้าวนาปีปริมาณเท่าไร และสำหรับรายละเอียดราคาของข้าวประเภทอื่น ๆ รวมทั้งปริมาณก็จะมีการเร่งรัดให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว แต่ว่าโครงการนี้อย่างที่เคยพูดมาหลายครั้งนะครับ จะเป็นครั้งแรกที่ทำให้เกษตรกรทุกคนได้ประโยชน์จากการแทรกแซงในเรื่องของราคาพืชผลทางการเกษตรของรัฐบาล แล้วก็ได้ดำเนินการไปแล้วในส่วนของข้าวโพด และมันสำปะหลัง และต่อจากนี้ไปในเรื่องของข้าวก็จะดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน นี่คืองานสำคัญทางด้านเศรษฐกิจที่ยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง

สำหรัลโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือโอท็อป การต่อยอดจากนี้ไปจะเป็นเรื่องของการคุ้มครองสิทธิทางปัญญา, การพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์ผ่านโครงการที่จะให้ความรู้เพิ่มเติม หรือที่เรียกว่า Knowledge base ก็จะทำตรงนี้ต่อไป และที่สำคัญที่สุดครับคือเรื่องการตลาด ซึ่งรัฐบาลก็จะมีการปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่งในเรื่องของการตลาดของสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์

และจากนี้ไปในรายการทุกสัปดาห์ จะเปิดโอกาสให้มีการนำเอาสินค้าโอท็อปหรือหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ มาแสดงอยู่ในรายการนี้ ซึ่งก็จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยเผยแพร่ และเราจะอาศัยโอกาสของการประชุมระหว่างประเทศเป็นช่องทางเผยแพร่เช่นกัน

"งานทางด้านเศรษฐกิจ สังคม รัฐบาลเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง และผมเองนั้นทุ่มเทเวลาอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะให้ภาวะต่าง ๆ กลับคืนสู่ความเป็นปกติ ในแง่ของเศรษฐกิจก็คือกลับมาขยายตัวเป็นบวก แล้วก็เร่งแก้ไขปัญหาทางด้านสังคม ซึ่งยืดเยื้อเรื้อรังมา รวมไปถึงปัญหาที่เป็นข้อกังวลใจของประชาชน พ่อแม่ ผู้ปกครอง นะครับ เรื่องยาเสพติด เรื่องเกม เรื่องอะไรต่าง ๆ นั้น ก็จะมีการเดินหน้า ทั้งรณรงค์และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดมากขึ้น และหาเครื่องไม้เครื่องมือใหม่ ๆ เข้ามาจัดการกับปัญหานี้อย่างต่อเนื่องต่อไป"นายกรัฐมนตรีกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ