ฟอร์ด มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐคาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐประจำเดือนก.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2550 จากอานิสงส์ของรัฐบาลสหรัฐที่เปิดตัวโครงการกระตุ้นอุตสาหกรรมให้ผู้บริโภคนำรถยนต์เก่ามาแลกซื้อรถยนต์คันใหม่ นักวิเคราะห์ฝ่ายขายของฟอร์ดกล่าวว่า ยอดขายรถในสหรัฐเดือนก.ค.อาจพุ่งขึ้นสูงกว่า 10 ล้านคันต่อปี หลังจากยอดขายของฟอร์ดไม่กระเตื้องมาตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งเมื่อเทียบกับเดือนก.ค.ของปีที่ผ่านมา ฟอร์ดทำยอดขายรถได้เพียง 156,406 คัน
ด้านเคน ซูเบย์ หัวหน้าฝ่ายขายและการตลาดของฟอร์ดเผยว่า ยอดขายของฟอร์ดที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้รับอานิสงส์จากโครงการของรัฐบาลที่ให้เงินสดเป็นแรงจูงใจ 4,500 ดอลลาร์ในการนำรถคันเก่าไปแลกซื้อรถรุ่นใหม่ ซึ่งโครงการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจ
"ยอดขายรถยนต์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สหรัฐเผชิญวิกฤตการเงิน ซึ่งการที่ผู้บริโภคซื้อรถโดยใช้เงื่อนไขในอุตสาหกรรมทำให้ฟอร์ดสามารถกอบโกยผลกำไรจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นได้ดีกว่าการสั่งซื้อจากภาคธุรกิจเสียอีก"
บลูมเบิร์กรายงานว่า ฟอร์ดสามารถชิงส่วนแบ่งทางการตลาดในสหรัฐได้ 17% เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 14% ในปีที่แล้ว และยังไต่ขึ้นแซงหน้าโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป รั้งอันดับ 2 รองจากเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม)