มาซายูกิ นาโอชิมะ เจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติสังกัดพรรคฝ่ายค้านหรือพรรคประชาธิปไตย (DPJ) ของญี่ปุ่นเชื่อมั่นว่า หากพรรค DPJ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเดือนนี้ ทางพรรคจะไม่ดำเนินการตามแรงกดดันของจีนด้วยการนำเงินในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศออกมากระจายความเสี่ยงหรือลดการถือครองสกุลเงินดอลลาร์
"ผมไม่คิดว่าญี่ปุ่นจะใช้นโยบายใดๆที่จะทำให้การถือครองสกุลเงินดอลลาร์ลดน้อยลง และไม่คิดว่าญี่ปุ่นจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในช่วงที่เศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะถดถอย แต่คาดว่าเรื่องนี้จะมีการอภิปรายกันในวงกว้างในอนาคต" นายนาโอชิมะกล่าว
นอกจากนี้ นายนาโอชิมะยังให้คำมั่นสัญญาว่าหากพรรค DPJ ได้รับเลือกให้เป็นรัฐบาล ก็จะดำเนินการลดหน่วยงานในภาครัฐ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายที่ประกาศไว้เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ทางพรรคจะลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นด้วยการนำเงินจากกองทุนพิเศษซึ่งบริหารโดยหน่วยงานของรัฐมาใช้ และจะยกเลิกนโยบายลดหย่อนภาษีบางประเภท
"ญี่ปุ่นมีรัฐบาลขนาดใหญ่เกินไปในเวลานี้ รวมถึงมีหน่วยงานที่ไม่จำเป็นอยู่มาก เราต้องการลดขนาดของรัฐบาลควบคู่ไปกับการสร้างสังคมให้มีความมั่นคงมากขึ้น โดยทางพรรคจะแถลงนโยบายฟื้นฟูการคลังในเดือนธ.ค.นี้" นาโอชิมะกล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวในญี่ปุ่น
ก่อนหน้านี้ นายคัทสึยะ โอคาดะ เลขาธิการพรรค DPJ กล่าวว่า ทางพรรคไม่มีแผนที่จะลดการถือครองสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งความคิดเห็นของเขาขัดแย้งกับนายมาซาฮารุ นาคากาวะ รมว.คลังคนปัจจุบันซึ่งมีมุมมองว่า ญี่ปุ่นควรซื้อพันธบัตรล็อตใหม่ที่ออกโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เพื่อเป็นการลงทุนทางเลือกใหม่แทนการซื้อพันธบัตรหรือดอลลาร์สหรัฐ
บลูมเบิร์กรายงานว่า ญี่ปุ่นมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศมากเป็นอันดับ 2 ของโลกที่ราว 1 ล้านล้านดอลลาร์ รองจากจีนซึ่งมีทุนสำรองสูงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์ และนับเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นทำสถิติตกมาอยู่อันดับ 2 รองจากจีน