นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวยอมรับว่า ปีนี้คงไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นค่าเงินบาทอ่อนค่ากลับไปที่ 36 บาท/ดอลลาร์ เช่นเดียวกับราคาน้ำมันที่คงจะกลับไปอยู่ในจุดเดิมได้ยาก แต่ ธปท.ก็จะมีมาตรการออกมาช่วยลดแรงกดดันที่ทำให้เงินบาทแข็งค่า เช่น การผ่อนคลายหลักเกณฑ์เพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนให้นำเงินออกไปลงทุนในต่างประเทศ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการจะต้องปรับตัวในช่วงที่เงินบาทแข็งค่ามากในขณะนี้คือ การป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน เพราะตอนนี้เงินบาทแข็งค่าจากการที่เราเกินดุลการค้า แต่หากเศรษฐกิจดีขึ้นก็น่าจะทำให้การเกินดุลการค้าลดลง แต่ทั้งนี้ ค่าเงินบาทยังแข็งค่าในระดับปานกลางเมื่อเทียบภูมิภาค จึงไม่ได้ทำให้สูญเสียความสามารถในการแข่งขันในด้านการส่งออกมากนัก
นางธาริษา กล่าวอีกว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2/52 ถ้าเทียบรายไตรมาสและรายเดือนเริ่มเห็นสัญญาณเป็นบวกในตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัว อาทิ การผลิต ยานยนต์ อิเล็คทรอนิคส์ การใช้จ่ายเอกชนที่เร่งตัวขึ้น ส่งออกรายเดือนเทียบเดือนต่อเดือนเป็นบวก นำเข้าก็ขยายตัวมากขึ้นเช่นกัน
"ในครึ่งแรกปีก่อน เศรษฐกิจเราดีมาก ฐานจึงสูง แต่หากเทียบ Q-o-Q หลายตัวยังติดลบแต่ก็ในอัตราชะลอลง และจากนี้ไปจะเริ่มดีขึ้น แต่จะยั่งยืนต่อเนื่องหรือไม่ ไม่มีใครกล้าฟันธง จากข้อมูลน่าจะดีขึ้นแต่ยังชะล่าใจไม่ได้"ผู้ว่า ธปท. กล่าว