ภาคการผลิตของสหรัฐในเดือนก.ค.มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ด้วยตัวเลขที่คาดว่าจะร่วงน้อยที่สุดในรอบ 11 เดือน ขณะที่วิกฤตเศรษฐกิจถดถอยเริ่มทุเลาลง และภาพรวมการผลิตของโรงงานหลายแห่งเริ่มมีเสถียรภาพ
นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ดัชนีภาคการผลิตของสถาบันจัดการอุปทานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 46.5 จุดจากระดับ 44.8 จุดในเดือนก.ค. ซึ่งตัวเลขที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 จุด บ่งชี้ถึงภาวะหดตัว
ภาวะซบเซาในภาคการผลิตเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น เนื่องจากสต็อกสินค้าลดลง การปรับลดการลงทุนในภาคธุรกิจที่มีจำนวนน้อยลงกว่าเดิม และอุปสงค์จากต่างประเทศที่กระเตื้องขึ้น ซึ่งตอกย้ำกระแสคาดการณ์ที่ว่า วิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำครั้งรุนแรงนับตั้งแต่ยุคเศรษฐกิจตกต่ำจะสิ้นสุดลงในปีนี้ นอกจากนี้ โครงการปล่อยเงินกู้เพื่อสนับสนุนให้ผู้บริโภคนำรถเก่ามาแลกซื้อรถใหม่ยังช่วยกระตุ้นอุปสงค์ในอุตสาหกรรมรถยนต์ได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม อัตราว่างงานที่เพิ่มขึ้นยังคงฉุดรั้งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
แอนดริว เกรทซินเกอร์ นักวิเคราะห์จากเอ็มเอฟซี โกลบอล อินเวสเมนท์ กล่าวผ่านทางบลูมเบิร์กว่า "เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มแสดงให้เห็นถึงการก้าวผ่านจุดต่ำสุดของภาวะตกต่ำไปแล้ว และหลังจากนี้จะได้เห็นถึงการฟื้นตัวของภาคการผลิตและภาคอุตสาหกรรมอื่นๆที่ค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ"
ทั้งนี้ สำนักงานจัดการอุปทานจะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตในเวลา 10.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงนิวยอร์ก ขณะที่สหรัฐจะเปิดเผยยอดการใช้จ่ายในการก่อสร้างเดือนมิ.ย.ในเวลาเดียวกัน ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลง 0.6%