นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้พิจารณาปรับเปลี่ยนเป้าหมายเงินเฟ้อในปี 52 ใหม่เป็นติดลบ 1-0% จากเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ 0-0.5% หลังจากรัฐบาลต่ออายุมาตรการช่วยค่าครองชีพประชาชนให้ไปสิ้นสุดในปลายปีนี้ และอัตราเงินเฟ้อในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.ก.ค.52) ปรับตัวลดลง 1.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อมีโอกาสพลิกกลับเป็นบวกตั้งแต่เดือน ต.ค.52 เป็นต้นไป
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ประกอบกับรัฐบาลต่ออายุ 5 มาตรการ 6 เดือนไปจนถึงสิ้นปี 52 ซึ่งเป็นการช่วยลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชนลงได้อีก จึงเป็นน้ำหนักที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีนี้ลดลงไปบางส่วน และมีแนวโน้มว่าเงินเฟ้อจะเริ่มปรับตัวเป็นบวกได้ตั้งแต่ ต.ค.นี้
"ตอนต้นปีเราคาดไว้ 0-0.5% ซึ่งเคยบอกไว้ว่าทั้งปีต้องรอดูว่ารัฐบาลจะต่ออายุโครงการลดค่าครองชีพให้ประชาชนหรือไม่ ซึ่งเมื่อรัฐบาลตัดสินใจต่ออายุมาตรการไปจนถึงสิ้นปี เราก็คาดการณ์ใหม่ไว้ที่ -1 ถึง 0%...(การต่ออายุ 5 มาตรการ) เป็นน้ำหนักที่ทำให้ดัชนีไม่ขึ้นหรือลดลงบางส่วน" นายศิริพล กล่าว
อัตราเงินเฟ้อดังกล่าวอยู่ภายใต้สมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยทั้งปีที่ 35-36 บาท/ดอลลาร์, ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเฉลี่ยที่ 60-70 ดอลลาร์/บาร์เรล และการต่ออายุมาตรการลดค่าครองชีพให้ประชาชนไปจนถึงสิ้นปี 52