ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบยูโร หลังข้อมูลเศรษฐกิจสดใสหนุนนลท.แห่เทรดตลาดหุ้น

ข่าวต่างประเทศ Tuesday August 4, 2009 07:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้นักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์หลังจากที่เคยมองว่าเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดความเสี่ยง ซึ่งข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าวครอบคลุมถึงตัวเลขจีดีพีสหรัฐ และข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐและจีน นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาดูความเคลื่อนไหวของญี่ปุ่นหลังจากพรรคฝ่ายค้านญี่ปุ่นยืนยันว่าจะไม่ลดการถือครองสกุลเงินดอลลาร์หากได้รับคะแนนเสียงให้จัดตั้งรัฐบาลในวันข้างหน้า

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 1.18% เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรที่ 1.4415 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.4247 ยูโร/ดอลลาร์ และดิ่งลง 1.32% เมื่อเทียบกับสกุลเงินปอนด์ที่ 1.6938 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6718 ปอนด์/ดอลลาร์

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนตัวลง 0.89% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิที่ 1.0588 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0683 ฟรังค์/ดอลลาร์ แต่ฟื้นตัวขึ้น 0.65% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 95.280 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 94.660 เยน/ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.78% แตะที่ 0.8416 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.8351 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดีดขึ้น 0.85% แตะที่ 0.6671 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6615 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

นักวิเคราะห์ด้านปริวรรตเงินตราจากบริษัท Brown Brothers Harriman ในเมือชิคาโกกล่าวกับเอพีว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้นักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์หลังจากที่เคยมองว่าเป็นแหล่งการลงทุนที่ปลอดความเสี่ยง และยังกระตุ้นนักลงทุนให้แห่เข้าซื้อขายในตลาดหุ้น โดยสถาบันจัดการอุปทาน (ISM) ของสหรัฐรายงานว่า ดัชนีกิจกรรมภาคโรงงานพุ่งขึ้นแตะระดับ 48.9 จุดในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปี 2551 และ อยู่ในระดับที่สูงเกินคาด แม้ว่าดัชนียังคงอยู่ต่ำกว่า 50 จุด ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคโรงงานยังคงหดตัวก็ตาม

ส่วนดัชนีภาคอุตสาหกรรมการผลิตของจีนเดือนก.ค.ที่ขยายตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี จากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายที่ช่วยหนุนอุปสงค์ภายในประเทศและช่วยบรรเทาผลกระทบจากการทรุดตัวของธุรกิจส่งออก โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของจีนในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 52.8 จุดจากระดับเดือนมิ.ย.ที่ 51.8 จุด ซึ่งทำสถิติขยายตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4

ค่าเงินปอนด์ทะยานขึ้นหลังจากทางการอังกฤษเปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของอังกฤษในเดือนก.ค. ปรับตัวขึ้น 50.8 จุดซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกและเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2551 ถือเป็นหลักฐานที่ยืนยันว่า เศรษฐกิจของอังกฤษกำลังฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยรุนแรง

ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนดพุ่งขึ้นหลังจากผลสำรวจความคิดเห็นจัดทำโดย Colmar Brunton ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของนิวซีแลนด์ บ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวนิวซีแลนด์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์และตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัวขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ