สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ธนาคารสัญชาติอังกฤษเตรียมระดมทุน 1 พันล้านปอนด์ (1.69 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ผ่านการขายหุ้น เพื่อหวังชิงความได้เปรียบด้านโอกาสทางกลยุทธ์
บลูมเบิร์กรายงานว่า ผลกำไรของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ในช่วงครึ่งปีแรกขยายตัวแตะที่ 1.88 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับระดับ 1.79 พันล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้านี้ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 1.82 พันล้านดอลลาร์
ปีเตอร์ แซนด์ส ซีอีโอของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดกล่าวว่า "เรามองว่าวิกฤตครั้งนี้คือโอกาสทางกลยุทธ์ที่จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างธนาคารกับลูกค้าให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดและยกระดับสถานะทางการแข่งขันไปอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งนั่นคือเป้าหมายของเรา"
โดยเมื่อเดือนที่ผ่านมา ธนาคารได้รายงานผลกำไรจากการดำเนินงานในหน่วยบริหารธุรกิจขนาดใหญ่ที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากยอดขายตราสารหนี้และการซื้อขายในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ที่คึกคักมากขึ้น เช่นเดียวกับเอชเอสบีซี โฮลดิ้ง ธนาคารยักษ์ใหญ่ของยุโรป และบาร์เคลย์ส ธนาคารรายใหญ่อันดับสองของอังกฤษที่ทำกำไรในธุรกิจหลักทรัพย์ได้เพิ่มขึ้นถึงสองเท่าจากอานิสงส์ยอดขายตราสารหนี้ที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และในปีนี้หุ้นของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดทะยานขึ้น 64% ทำสถิติสูงสุดเป็นอันดับสองรองจากบาร์เคลย์ส
อย่างไรก็ตาม รายได้ในแผนกบริหารธุรกิจขนาดใหญ่ของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดได้รับผลกระทบจากความเคลื่อนไหวในแผนก consumer banking ที่ซบเซา ซึ่งสตีฟ เบอร์ทามินี ประธานของหน่วยธุรกิจดังกล่าวกำลังพยายามกระตุ้นรายได้และผลกำไรของธุรกิจด้วยการขยายพอร์ตด้านธุรกิจ private banking
ทั้งนี้ รายได้ของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ส่วนใหญ่มาจากตลาดในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ โดยเมื่อปีที่แล้วธนาคารสามารถระดมทุนได้ 1.8 พันล้านดอลลาร์