บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) ผู้ผลิตรถหรูรายใหญ่ที่สุดของโลก เผยผลกำไรไตรมาส 2 ร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยทำให้รถราคาแพงมียอดขายลดลง
โดยกำไรสุทธิของบริษัทร่วงลง 76% แตะ 121 ล้านยูโร (174 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จาก 507 ล้านยูโรเมื่อปีที่แล้ว ส่วนยอดขายลดลง 11% แตะ 1.297 หมื่นล้านยูโร
ยอดขายของบีเอ็มดับเบิลยูยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องแม้รัฐบาลเยอรมนีจะเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคนำรถเก่าที่มีอายุมากกว่า 9 ปีมาแลกซื้อรถใหม่ เนื่องจากผู้บริโภคเลือกซื้อรถยี่ห้ออื่นที่มีราคาถูกกว่ารถบีเอ็มดับเบิลยู
"บีเอ็มดับเบิลยูยังคงอยู่ในสภาพการณ์ที่ยากลำบาก" แฟรงค์ บิลเลอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Landesbank Baden- Wuerttemberg ให้สัมภาษณ์ก่อนมีการเปิดเผยข่าวนี้ "ปัญหาหลักของบริษัทคือยอดขายที่ลดลง ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์ที่สูงขึ้น และการผิดนัดชำระหนี้"
เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา นอร์เบิร์ท ริทโธเฟอร์ ซีอีโอของบริษัท กล่าวว่า ปีนี้จะเป็นปีที่ท้าทายสำหรับบริษัท และตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าตลาดยานยนต์จะซบเซาไปถึงเมื่อใด
ในขณะเดียวกัน สมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งยุโรป กล่าวว่า ในเดือนมิ.ย. ยอดขายรถบีเอ็มดับเบิลยูในยุโรปลดลง 11% แตะ 75,466 คัน แม้ว่าตลาดยานยนต์จะเริ่มขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 14 เดือน อันเป็นผลมาจากมาตรการกระตุ้นตลาดของรัฐบาล สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน