นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบข้าวเตรียมจะเสนอต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.)เพื่อพิจารณาผลการตรวจสอบคุณภาพข้าวนาปรังปี 51 ในสต็อกของรัฐบาล หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งให้ตนและกระทรวงการคลังออกไปตรวจสอบข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้าวใน จ.นครสวรรค์ และ จ.กำแพงเพชร มีกว่า 40 โกดังและคิดเป็น 47% ของปริมาณสต็อกข้าวที่มีอยู่ประมาณ 1.48 ล้านตันนั้น พบว่าเป็นข้าวที่มีคุณภาพดีเลิศทุกโกดังซึ่งตรงกับข้อมูลของผู้ตรวจสอบคุณภาพข้าว(เซอร์เวเยอร์) ทั้งหมด จากนี้จะส่งรายละเอียดทั้งหมดให้กระทรวงพาณิชย์เพื่อนำข้าวส่วนหนึ่งไปขายในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (AFET) จำนวน 3 แสนตันตามมติ กขช.ครั้งล่าสุด ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถขายในราคาที่สูงกว่าข้าวขาว 5% แน่นอน
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า การตรวจสอบคุณภาพข้าวพบว่าเป็นข้าวที่มีขนาดความยาวเกิน 7 มิลลิเมตร และแต่ละเมล็ดเป็นข้าวที่ผ่านการแปรสภาพแล้วยังอยู่ในสภาพที่ดีสมบูรณ์เต็มเมล็ดกว่า 80% ซึ่งถือว่าเป็นข้าวที่อยู่ในสภาพที่ดีมาก ดังนั้น จึงเชื่อว่าจะสามารถจำหน่ายได้ในราคาที่สูง
ขณะที่ก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์เคยได้รายงานต่อที่ประชุม กขช.ว่าเป็นข้าวที่เสื่อมคุณภาพมาก ทั้งที่เพิ่งรับจำนำและเก็บไว้ในสต็อกของรัฐบาล จึงทำให้นายกรัฐมนตรีต้องมอบหมายให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบคุณภาพให้ชัดเจนอีกครั้ง
รัฐบาลได้เปิดโครงการรับจำนำข้าวนาปรังฤดูการผลิตปี 51 ประมาณ 2.2 ล้านตัน เปิดประมูลไป 2 ครั้งในสมัยของรัฐบาลที่ผ่านมาและในปัจจุบันจนปัจจุบันเหลืออยู่ในสต็อกประมาณ 1.48 ล้านตัน