กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผย ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย. หลังจากที่ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่มนำเงินมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น และส่งผลให้ตัวเลขการใช้จ่ายขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง สวนทางกับอัตราการออมที่ลดลงเล็กน้อย
โดยอัตราการออมลดลงสู่ระดับ 4.6% ในเดือนมิ.ย. หลังจากทะยานขึ้น 6.2% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2538 ส่วนรายได้ส่วนบุคคลลดลงอย่างหนัก 1.3% ในเดือนมิ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นที่ระดับเดียวกันนี้เมื่อเดือนพ.ค.ซึ่งตัวเลขดังกล่าวร่วงหนักกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 1.0%
นอกจากนี้ ทางกระทรวงฯยังได้ปรับทบทวนตัวเลขการใช้จ่ายและข้อมูลรายได้ในปี 2472 หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางการสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ที่หดตัวในอัตรา 1% ต่อปี ซึ่งนับว่าฟื้นตัวขึ้นอย่างมากจากที่หดตัวหนัก 6.4% ในไตรมาสแรกของปีนี้ และจากระดับติดลบ 5.4% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2551
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า จากผลกระทบของการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ซบเซาทำให้ยอดขายในบริษัทอาหารและเครื่องดื่มทรุดตัวลงตามไปด้วย โดยบริษัท ไทสัน ฟูดส์ อิงค์ ผู้ผลิตเนื้อรายใหญ่สุดของโลกเปิดเผยยอดขายที่ตกลง 3 %ในไตรมาส 3 แต่ยังสามารถทำกำไรได้แข็งแกร่งเพราะบริษัทได้ปรับลดต้นทุนค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเป็นข้อมูลที่หลายฝ่ายให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดเพราะมีสัดส่วน 70% ต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐ