ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ออกประกาศผ่อนคลายหลักเกณฑ์การลงทุนในหลักทรัพย์ในต่างประเทศในวันนี้ โดยให้นิติบุคคลที่มีสินทรัพย์ตามงบดุลตั้งแต่ 5 พันล้านบาท ซึ่งมีธุรกิจหลักเป็นผู้ผลิตหรือประกอบธุรกิจการค้าหรือบริการ สามารถลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศได้ด้วยตัวเองในวงเงินไม่เกิน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
จากเดิมที่ ธปท.อนุญาตให้ลงทุนได้เองเฉพาะกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.) กองทุนประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทประกันชีวิตและบริษัทประกันวินาศภัย และสถาบันการเงินที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้ง
พร้อมทั้ง ขยายขอบเขตให้ผู้ลงทุนสถาบันทำธุรกรรมเพิ่มเติม เพื่อบริหารความเสี่ยง หรือเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ได้แก่ ธุรกรรมอนุพันธ์อ้างอิงตัวแปรต่างประเทศ เช่น อัตราแลกเปลี่ยน อัตราดอกเบี้ย ราคาตราสารหนี้ ราคาตราสารทุน ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และดัชนีทางการเงินต่าง ๆ โดยการทำอนุพันธ์อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยนที่เกี่ยวกับเงินบาทจะต้องทำ ป้องกันความเสี่ยงเท่านั้น
และ ธุรกรรมยืมหรือให้ยืมตราสารในต่างประเทศ(SBL) , ธุรกรรมขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยมีสัญญาจะซื้อคืน หรือธุรกรรมขายหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยมีสัญญาขายคืน(Repo และ Reverse Repo)
ธปท.ยังขยายขอบเขตให้ผู้ลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลที่มีสินทรัพย์ต่ำกว่า 5 พันล้านบาทที่จะต้องลงทุนผ่านบริษัทหลักทรัพย์หรือจัดตั้งกองทุนส่วนบุคคล ให้สามารถลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศและทำธุรกรรมทางการเงินเพิ่มขึ้น โดยให้บุคคลทั่วไปที่ลงทุนผ่านบริษัทหลักทรัพย์ ลงทุนในตราสารอนึพันธ์ที่ซื้อขายในตลาด(Excahnge Traded Derivatives)เพื่อบริหารความเสี่ยงจากการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ
และให้กองทุนส่วนบุคคลทำธุรกรรมอนุพันธ์อ้างอิงตัวแปรต่างประเทศ SBL, Repo และ Reverse Repo ได้ในกรอบเดียวกับผู้ลงทุนสถาบัน
สำหรับบุคคลทั่วไปที่ลงทุนผ่านบริษัทหลักทรัพย์และกองทุนส่วนบุคคล จะได้รับการผ่อนผันหลักเกณฑ์การทำธุรกรรมอนุพันธ์เพื่อป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน ในกรณีค่าสินค้าหรือบริการให้ทำธุรกรรมอนุพันธ์จากประมาณการได้ไม่เกินมูลค่าสินค้าหรือบริการภายใน 1 ปี , การทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศข้ามสกุล(Cross Currency),กรณียกเลิก(Unwind)ธุรกรรมอนุพันธ์ได้เพิ่มเติม เช่น เงินตราต่างประเทศที่ไม่ได้รับมอบหรือส่งมอบตามอนุพันธ์ที่มีจำนวนต่ำกว่า 2 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ
รวมทั้ง ขยายขอบเขตให้บุคคลภายในประเทศทำธุรกรรมอนุพันธ์ ธุรกรรมเงินฝาก หรือเงินกู้ยืมที่ให้ผลตอบแทนอ้างอิงตัวแปรต่างประเทศที่ไม่เกี่ยวข้องกับเงินบาทหรือกับธนาคารพาณิชย์ในประเทศ