ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์หลังจากมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางอังกฤษจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเย็นวันนี้
ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง 0.09% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4412 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.4399 ยูโร/ดอลลาร์ และอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.6997 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6932 ปอนด์/ดอลลาร์
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังร่วงลง 0.34% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 94.940 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 95.260 เยน/ดอลลาร์ แต่ดีดตัวขึ้น 0.08% แตะที่ 1.0611 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0603 ปอนด์/ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดิ่งลง 0.64% แตะที่ 0.8396 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.8450 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.03% แตะที่ 0.6728 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6726 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
บลูมเบิร์กรายงานว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กผันผวนมาก หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่มีทั้งบวกและลบ โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยดัชนีภาคบริการหดตัวลงสู่ระดับ 46.4 จุดในเดือนก.ค.จากเดือนมิ.ย.ที่ระดับ 47.0 สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 48.0 จุด
ADP Employer Services เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการภาคเอกชนในสหรัฐลดการจ้างงานลง 371,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.ที่ลดลง 463,000 ตำแหน่ง ซึ่งแย่กว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศจะลดลงเพียง 345,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานภายในประเทศเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมิ.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ายอดสั่งซื้อของโรงงานจะลดลง 1.0%
นักลงทุนจับตาดูการประชุมอีซีบีและธนาคารกลางอังกฤษในช่วงเย็นวันนี้ โดยมีกระแสคาดการณ์ในวงกว้างว่าธนาคารทั้งสองแห่งคงอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษจะยุติโครงการซื้อพันธบัตรที่ดำเนินมานาน 5 เดือน หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอังกฤษกำลังฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอย โดยคาดว่าธนาคารกลางจะประกาศยุติโครงการดังกล่าวในการประชุมประจำเดือนวันพรุ่งนี้
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลงแม้นายเกล็น สตีเฟนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียส่งสัญญาณว่า ธนาคารกลางอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันข้างหน้า เนื่องจากมีข้อมูลโดยรวมที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเริ่มขยายตัว ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์และตัวเลขการใช้จ่ายของรัฐบาล