นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในอดีตการรายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจมักเปรียบเทียบตัวเลขปีต่อปี แต่ปัจจุบันที่ภาวะวิกฤติเศรษฐกิจมีความผันผวนมากนั้น ควรจะดูแนวโน้มเศรษฐกิจเทียบรายไตรมาสต่อไตรมาส และเทียบเดือนต่อเดือน ซึ่งจะทำให้เห็นภาพที่ชัดเจนว่าสิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินไป กับภาวะความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกได้ส่งผลแล้วต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยจะเห็นได้ว่าขณะนี้ประเทศไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และกำลังเริ่มฟื้นในอัตราที่เร่งตัวพอสมควร
"อยากจะชี้ให้เห็นว่าถ้าดูจากตัวเลขต่างๆ เหล่านี้ จะเห็นว่าเราได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วจริงๆ และขณะนี้กำลังมีแนวโน้มการขยายตัวในอัตราที่ค่อนข้างเร่งตัวขึ้นพอสมควร หรือเป็นการฟื้นฟูแบบตัว V คือลงเร็ว และขึ้นค่อนข้างเร็ว" นายกรัฐมนตรี กล่าวในการแถลงผลงานนโยบายรัฐบาล 6 เดือน
นอกจากนี้ยังมีเครื่องชี้วัดทางเศรษฐกิจอีกหลายตัวที่มีสัญญาณไปในทิศทางเดียวกัน เช่น ดัชนีผลผลิตทางอุตสาหกรรมที่เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาสจะเห็นการฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน, อัตราการใช้กำลังการผลิต ที่เริ่มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น, ดัชนีการบริโภคของภาคเอกชนที่มีสัญญาณดีขึ้น, รายได้จากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เป็นต้น
" 6 เดือนที่ผ่านมา ผมทราบดีว่าเป็นช่วงที่ทุกคนยากลำบากที่สุดจากวิกฤติเศรษฐกิจในครั้งนี้ แต่ผมมั่นใจว่าจุดเลวร้ายที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้ว และขณะนี้จากการวางแผนมาตรการเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง จะทำให้การฟื้นตัวเกิดขึ้น และรัฐบาลได้เตรียมความพร้อมสำหรับเศรษฐกิจหลังการฟื้นตัวแล้วด้วย" นายกรัฐมนตรี กล่าว