นายสมบัติ ศานติจารี ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ.เตรียมหามาตรการดูแลอัตราค่าไฟฟ้าในปีนี้ไม่ให้มีการปรับตัวสูงขึ้นมาก เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนให้แก่ประชาชน หลังแนวโน้มราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นจนกระทบต้นทุนการผลิตไฟฟ้า โดยปีนี้ กฟผ.ได้ประมาณการว่าราคาน้ำมันตลาดโลกจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 55 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ขณะนี้ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 71 ดอลลาร์/บาร์เรล และยังมีความผันผวนสูง ทำให้กระทบต้นทุนการผลิตไฟฟ้า โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ เอฟที
ทั้งนี้ กฟผ.จะติดตามแนวโน้มราคาน้ำมันต่อไป และหากในอนาคตราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น กฟผ.จะเสนอให้รัฐบาลพิจารณาหาแนวทางดำเนินการช่วยเหลือประชาชน เพราะที่ผ่านมา กฟผ.ก็ไม่ได้ปรับค่าเอฟทีขึ้นตามต้นทุนแท้จริง โดยแบกรับภาระไว้เอง ประมาณ 20,000 ล้านบาท แต่จะทยอยได้รับเงินชดเชยภายหลัง ที่คาดว่า จะได้รับการชดเชยจนครบภายในปี 2553 แต่หากราคาน้ำมันปรับขึ้นในขณะนี้เชื่อว่าการได้รับเงินทยอยชดเชยจะยืดเวลาออกไปอีก
ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวอีกว่า ยอดการใช้ไฟฟ้าของประเทศ 6 เดือนแรกปีนี้ ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของไทยลดลง 3.74% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ประมาณการว่าตลอดปีนี้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าจะลดลง 2.5% หรือ 3,000-4,000 ล้านหน่วย