น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงแนวทางการระบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลังในสต็อกรัฐบาลหลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ปรับวิธีการระบายให้มีความหลากหลายและคล่องตัวขึ้นว่า ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในสต็อกที่เหลือ 981,748 ตันนั้น กรมฯ จะปรับวิธีการขายให้หลากหลายมากขึ้น โดยจะเปิดให้ผู้ประกอบการในประเทศทั้งผู้ซื้อรายย่อย, กลุ่มเกษตรกร, สหกรณ์การเกษตร, วิสาหกิจชุมชน รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมและเจ้าของโกดังซื้อได้ 200,000 ตัน ส่วนที่เหลือจะขายเพื่อส่งออก โดยจะเปิดให้ผู้ที่สนใจซื้อทั้งผู้ประกอบการในประเทศและต่างประเทศยื่นซื้อได้
"การเปิดประมูลขายมีขั้นตอนมากและใช้เวลานาน กว่าจะทราบผลประมูลก็ช้า กว่าจะขายหมดคงไม่ทันผลผลิตฤดูกาลใหม่จะออก และการเปิดประมูลรอบที่ผ่านมามีคนเสนอซื้อเพื่อส่งออกน้อยราย จึงเสนอ ครม.ให้เปิดขายวิธีอื่นๆ ด้วย โดยต่อไปจะมี 1 วันในรอบสัปดาห์ที่กรมฯ จะแจ้งให้ผู้ที่สนใจจะซื้อข้าวโพดเสนอซื้อเข้ามาที่กรมโดยตรง ใครเสนอราคาก่อน ก็จะได้คิวเจรจาต่อรองก่อน และถ้าได้ราคาตามเกณฑ์ที่กำหนดก็จะขายให้ ส่วนการประมูลก็ยังมีอยู่แต่จะเปิดเป็นครั้งคราวแล้วแต่ความเหมาะสม" น.ส.ชุติมา กล่าว โดยยืนยันว่า การเปิดขายจะทำอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้
สำหรับมันสำปะหลังนั้นจะปรับวิธีการระบายเช่นกัน โดยจะปรับเงื่อนไขจากเดิมให้ส่งออกเพียงอย่างเดียว เป็นสามารถซื้อเพื่อใช้ในประเทศได้ โดยมีมันสำปะหลังเส้นคงเหลือ 2.78 ล้านตัน แป้งมัน 818,000 ตัน ในจำนวนนี้จะกันไว้ 500,000 ตัน เพื่อขายให้กับผู้ประกอบการในประเทศ ซึ่งจะให้ผู้สนใจยื่นเสนอราคาซื้อเข้ามาโดยตรง
ส่วนที่เหลือจะเปิดขายเพื่อส่งออกคาดว่าจะขายได้หมด เพราะตลาดมีความต้องการมากขึ้นและยังมีผู้สนใจเสนอซื้อในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล(G to G)อีก โดยเฉพาะจีน รวมไปถึงการขายให้กับโรงงานผลิตเอทานอลที่ล่าสุดติดต่อขอซื้อแป้งมันเข้ามาแล้ว 280,000 ตัน