ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า งบดุลของเฟดในสัปดาห์นี้ร่วงลง 1.13 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 0.6% สู่ระดับ 1.99 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวลงติดต่อกัน 3 สัปดาห์ และทำสถิติร่วงลงต่ำกว่าระดับ 2 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน
เฟดระบุว่า การปล่อยเงินกู้ตามโครงการ Term Auction Facility ของเฟดที่ปล่อยให้กับธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศ ร่วงลง 4 พันล้านดอลลาร์ แตะที่ 2.336 แสนล้านดอลลาร์ และยอดการปล่อยกู้ให้กับธนาคารในต่างประเทศลดลง 1.15 หมื่นล้านดอลลาร์ แตะที่ 7.63 หมื่นล้านดอลลาร์
เมื่อปีที่แล้ว เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดได้อัดฉีดเงินเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าเพื่อผ่อนคลายภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ และรับมือกับความต้องการเงินสดของธนาคารพาณิชย์ ขณะที่นายลอว์เรนซ์ เมเยอร์ อดีตผู้ว่าการเฟดคาดว่าในการประชุมเฟดครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 12 ส.ค.นี้ เบอร์นันเก้และคณะกรรมการคนอื่นๆของเฟดจะขยายเวลาของโครงการซื้อพันธบัตรระยะยาววงเงินรวม 3 แสนล้านดอลลาร์ไปจนถึงเดือนก.ย. ซึ่งจะช่วยให้สินทรัพย์ในรูปของตราสารที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) และพันธบัตร เพิ่มขึ้นเป็น 2.5 ล้านล้านดอลลาร์
ที่ผ่านมา เฟดใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ครอบคลุมถึงการเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ และเพิ่มการรับซื้อตราสาร MBS อีก 7.50 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะคลี่คลายภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ นอกจากนี้ เฟดได้เข้าซื้อตราสารหนี้ที่ออกโดย หรือรับประกันโดยสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้เพื่อการซื้อบ้านรายใหญ่ 2 แห่ง คือ แฟนนี เม และเฟรดดี แมค ในปีนี้ เป็นวงเงินสูงถึง 1 แสนล้านดอลลาร์ บลูมเบิร์กรายงาน