เงินริงกิตของมาเลเซียและเปโซของฟิลิปปินส์พุ่งนำสกุลเงินเอเชียแข็งค่าขึ้นในสัปดาห์นี้ ขณะที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวซึ่งภาวะดังกล่าวช่วยสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนต่างชาติเข้าถือครองสินทรัพย์ในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่มากขึ้น
โดยเงินริงกิตทะยานแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ ขณะที่เงินเปโซเคลื่อนไหวแข็งแกร่งที่สุดตลอดทั้งสัปดาห์ หลังข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐ ยุโรป และจีนชี้ให้เห็นว่า อัตราการผลิตในโรงงานที่มีแววดีดตัวขึ้น ส่วนเงินรูเปียห์อินโดนีเซียเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยหลังเคลื่อนไหวแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน ท่ามกลางความกังวลว่า ธนาคารกลางจะควบคุมการแข็งค่าของสกุลเงินเพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้ส่งออก
บลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 12:29 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เงินริงกิตเพิ่มขึ้น 0.5% แตะที่ 3.5027 ต่อดอลลาร์ ส่วนเงินเปโซเพิ่มขึ้น 0.6%
ด้านเงินเยนอ่อนค่าลงสู่ระดับ 136.92 ต่อยูโรจากระดับ 134.99 ต่อยูโร และเคลื่อนไหวที่ 95.31 ต่อดอลลาร์ จากระดับ 94.68 ต่อดอลลาร์ นอกจากนี้ เงินเยนยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่ หลังมีข้อมูลบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกกำลังคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้ส่งผลให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง
เคร็ก ชาน นักวิเคราะห์จากโนมูระ โฮลดิ้งส์ อิงค์ กล่าวว่า "สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงเช่นสกุลเงินในเอเชียอาจแข็งค่ามากขึ้นอีก ขณะที่ปัจจัยหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสหลายรายการล้วนมีส่วนช่วยให้กระตุ้นตลาดอยู่ในจุดที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ รัฐบาลมาเลเซียกล่าววานนี้ ตลาดอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศกำลังส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัว หลังทางการเปิดเผยยอดส่งออกที่ร่วงน้อยลงในเดือนมิ.ย.
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนก.ค.ที่ร่วงลงเพียง 325,000 ตำแหน่ง หลังจากที่ตกลง 467,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. แต่คาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่แตะระดับสูงสุดในรอบ 26 ปีที่ 9.6%