พอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ประจำปี 2551 กล่าวแสดงความเห็นกับผู้สื่อข่าวที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เบน เบอร์นันเก้ สมควรได้รับการไว้วางใจให้ทำหน้าที่เป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นสมัยที่ 2 เนื่องจากเบอร์นันเก้ประสบความสำเร็จในการรับมือกับวิกฤตการณ์การเงิน
"ผลงานในการรับมือกับวิกฤตการณ์การเงินทำให้เขามีโอกาสที่จะได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่ประธานเฟดเป็นสมัยที่ 2 เบอร์นันเก้ทำให้เฟดเข้ามามีบทบาทในตลาดมากขึ้นเมื่อระบบการธนาคารของสหรัฐเข้าสู่ภาวะวิกฤต โดยเขาตัดสินใจอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเป็นวงเงินสูงถึง 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งทันเวลาและได้ผล และทำในสิ่งที่ประธานเฟดคนอื่นๆไม่เคยทำ คือลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0-0.25% เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น เพราะหากต้นทุนการกู้ยืมอยู่ในระดับสูง ภาคเอกชนคงยากที่จะลืมตาอ้าปากได้" ครุกแมนกล่าว
"ผมคิดว่าเบอร์นันเก้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี แต่หากรัฐบาลสหรัฐไม่เปิดทางให้เขารับหน้าที่ประธานเฟดสมัยที่สอง ก็เท่ากับทำให้เขาไม่สามารถเห็นผลที่เกิดขึ้นจากมาตรการต่างๆของเขา และเขาเป็นคนสำคัญที่อยู่เบื้องหลังเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวเร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้" ครุกแมนกลาว
การแสดงความคิดเห็นของครุกแมนมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโอบามากล่าวว่า เบอร์นันเก้ปฏิบัติหน้าที่ประธานเฟดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่ได้ให้คำมั่นสัญญาว่ารัฐบาลจะต้องแต่งตั้งเขาเป็นสมัยที่สอง ขณะที่นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่ประธานาธิบดีโอบามาจะเสนอชื่อนายลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส ที่ปรึกษาเศรษฐกิจแห่งทำเนียบขาว ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดต่อจากเบอร์นันเก้ บลูมเบิร์กรายงาน