ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นในเดือนมิ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ.2551 เนื่องจากยอดส่งออกลดลงไม่มากนัก หลังเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น
กระทรวงคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นในเดือนมิ.ย.ขยายตัวสู่ระดับ 1.153 ล้านล้านเยน (1.18 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากระดับในปีก่อนหน้านี้ ขณะที่นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่าตัวเลขดังกล่าวจะอยู่ที่ 6.55 แสนล้านเยน
ยอดส่งออกฟื้นตัวขึ้นท่ามกลางอานิสงส์การขยายตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจจีน ซึ่งช่วยกระตุ้นอุปสงค์รถยนต์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องจักรจากญี่ปุ่น ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในสัปดาห์หน้า รัฐบาลจะเปิดเผยข้อมูลการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ผ่านมาที่ขยายตัวได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี หลังการส่งออกและผลผลิตอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น
"ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวสูงขึ้นทีละน้อยในหลายเดือนต่อจากนี้ เพราะดุลบัญชีและรายได้จากการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศที่มีเสถียรภาพ" ซูซูมุ คาโต้ นักวิเคราะห์จากบล.คาลิยงในกรุงโตเกียวกล่าว "การส่งออกที่ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังภาวะถดถอยอาจขยายตัวได้ในไตรมาสสองเช่นเดียวกัน"
ทั้งนี้ รัฐบาลและธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ปรับเพิ่มประมาณการณ์เศรษฐกิจในเดือนที่ผ่านมา โดยอ้างถึงการใช้จ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้นและการดีดตัวขึ้นของผลผลิตภาคโรงงาน รวมถึงการส่งออกไปยังต่างประเทศ
บลูมเบิร์กรายงานว่า ยอดส่งออกของญี่ปุ่นในเดือนมิ.ย.ลดลง 37% จากปีก่อนหน้านี้ ขณะที่ยอดนำเข้าตกลงหนักกว่าถึง 43.8% และยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดขยายตัวเป็นเดือนที่ 5 ที่ระดับ 1.7999 ล้านล้านเยน