โตเกียว โชโกะ รีเสิร์ช ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยสินเชื่อของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า จำนวนบริษัทที่ประสบภาวะล้มละลายในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 1.0% จากระดับปีที่แล้ว แตะ 1,386 ราย นับเป็นยอดบริษัทล้มละลายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ส่วนใหญ่บริษัที่ล้มละลายนั้นจะเป็นบริษัทที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก
โดยหนี้สินของบริษัทเหล่านี้ลดลงไป 44.2% แตะ 3.71 แสนล้านเยน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในปีนี้ และยังเป็นตัวเลขที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 แล้ว แต่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้วที่ยังไม่มีบริษัทจดทะเบียนในตลาดที่ประสบปัญหาล้มละลาย รวมถึงบริษัทที่ล้มละลายที่มีหนี้สิน 1 หมื่นล้านเยนหรือต่ำกว่านั้น ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากสภาพแวดล้อมทางการเงินที่ดีขึ้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า อัตราล้มละลายที่อ่อนตัวลงดูเหมือนว่า จะได้รับผลกระทบมาจากผลพวงที่เกิดขึ้นจากมาตรการของรัฐบาลเพื่อที่จะปรับปรังสถานการณ์ทางการเงินมากกว่าการฟื้นตัวของตัวเลบรายได้ที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น
บริษัทคาดว่า การล้มละลายของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กมีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้น เนื่องจากบริษัทเหล่านี้ยังคงต้องเผชิญกับสถานการณ์ทางธุรกิจที่ยากลำบาก และยังไม่มีสัญญาณของยอดขายที่หดตัวลงและกำไรที่ร่วงลง เนื่องจากดีมานด์ที่ฟื้นตัวช้าลงและราคาที่อ่อนตัวลง นอกจากนี้ จุดยืนในการปล่อยกู้ของสถาบันการเงินดูเหมือนว่าจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างมด
จำนวนบริษัทที่ล้มละลายที่มีหนี้สิน 1 พันล้านเยนหรือสูงกว่านั้น มีจำนวนตกลงมาถึง 15.7% จากระดับปีที่แล้ว แตะ 64 ราย ขณะที่บริษัทที่มีหนี้สินต่ำกว่า 100 ล้านเยน มีจำนวนเพิ่มขึ้น 8.8% แตะ 912 ราย
โดยจำนวนบริษัทในภาคการผลิตที่ล้มละลายมีจำนวนเพิ่มขึ้น 16.1% แตะ 216 ราย นับเป็นสถิติที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องมาเป็นเดือนที่ 11 แล้ว จำนวนบริษัทสื่อสารและโทรคมนาคมที่ล้มละลายมีจำนวนสูงถึง 68 ราย เพิ่มขึ้น 41.6%
แม้ว่า จำนวนบริษัทก่อสร้างที่ล้มละลายจะตกลงไป 8.2% เหลือ 390 ราย แต่จำนวนบริษัทที่ล้มละลายก็ยังถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในปีนี้