สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ยอดขายอสังหาริมทรัพย์จีนในช่วง 7 เดือนแรกพุ่งสูงขึ้นถึง 60% เมื่อพิจารณาในแง่ของมูลค่า ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลมากขึ้นว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ที่สูงเป็นประวัติการณ์อาจจะทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์
ยอดขายครึ่งปีแรกขยายตัวขึ้น 53% จากระดับปีที่แล้ว ส่วนการลงทุนด้านอสังหาฯเพิ่มขึ้น 11.6% จากระดับ 9.9%
โดยราคาบ้านในเมืองใหญ่ 70 เมือง ปรับตัวขึ้น 1% ในเดือนก.ค.จากระดับปีที่แล้ว นับเป็นตัวเลขที่ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 9 เดือน ทางด้านนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่าของจีนได้ออกมาย้ำเมื่อวานนี้ว่า จีนจะยังคงใช้นโยบายด้านการเงินเดิม หลังจากที่ราคาสินทรัพย์ปรับตัวขึ้นจนทำให้เกิดการคาดการณ์ว่า จีนจะคุมเข้มนโยบายทางการเงิน
เดวิด โคเฮน นักเศรษฐศาสตร์ของแอ็คชั่น อิโคโนมิกส์ กล่าวว่า ผู้บริหารระดับนโยบายอาจจะเป็นกังวลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ที่อาจจะเกิดขึ้น และอาจจะใช้มาตรการเพื่อทำให้ราคาปรับตัวลง
หุ้นอสังหาฯของจีนดีดตัวขึ้นมาแล้วถึง 142% ในปีนี้ และยังเป็นหุ้นกลุ่มที่คึกคักที่ในกลุ่มดัชนีหุ้นเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิต แต่เมื่อช่วงบ่ายวันนี้หุ้นกลุ่มนี้ร่วงลง 1.6% เนื่องจากความกังวลที่ว่า การเติบโตของยอดสินเชื่ออาจจะชะลอตัวลง
จาง เจียนกัว ประธานบริษัท ไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงค์ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของจีนจะลดยอดการปล่อยเงินกู้ครั้งใหม่ๆลงประมาณ 70% ในช่วงครึ่งหลังนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดหนี้เสียจำนวนมหาศาล บลูมเบิร์กรายงาน
จาง จีเฟย นักวิเคาะห์ของบล.หัวไถ่ กล่าวว่า มีความกังวลว่านโยบายเศรษฐกิจมหภาคจะยังคงอยู่ในจุดเดิม และธุรกิจอสังหาฯจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายเพื่อให้เกิดความเหมาะสม
เชอร์แมน ชาน นักเศรษฐศาสตร์ของ Moody’s Economy.com กล่าวว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ปรับตัวขึ้นนี้ยังอยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้ รัฐบาลเองน่าจะเป็นห่วงเรื่องตลาดหุ้นมากกว่า โดยความมั่นใจที่มีมากขึ้นรวมทึงสภาพคล่องที่สูงกว่าเดิมทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ ราคาบ้านเริ่มถีบตัวขึ้นในเดือนมิ.ย.หลังจากที่อ่อนตัวลงในช่วง 6 เดือนก่อนหน้านี้