โรเบิร์ต ฮอลล์ ประธานคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจประจำสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจต้องอาศัยเวลานานกว่า 1 ปีกว่าจะหลุดพ้นจากภาวะถดถอยอย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากขณะนี้สัญญาณที่บ่งชี้ถึงความมีเสถียรภาพเกิดขึ้นเพียงระยะสั้นๆเท่านั้น
บลูมเบิร์กรายงานอ้างคำกล่าวของฮอลล์ว่า ทางสำนักงานจะรอดูสถานการณ์ความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจหลังจากผ่านพ้นจุดสูงสุดในก่อนหน้านี้ไปแล้ว ซึ่งอาจจะใช้เวลาราว 18 เดือนหรือมากกว่านั้นเพื่อประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่แท้จริงต่อไป
โดยการแสดงความคิดเห็นของฮอลล์ในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองของเขาที่ว่า ยังเป็นการเร็วเกินไปที่จะด่วนสรุปว่าภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจที่เริ่มต้นขึ้นในเดือนธ.ค.2550 กำลังคลี่คลายลงแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่คนอื่นๆมองว่า ตัวเลขจ้างงานที่ร่วงน้อยลงและอัตราว่างงานที่ลดลงบ่งชี้ว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยสิ้นสุดลงในเดือนก.ค.
"เราจำเป็นต้องรอดูสถานการณ์ในระยะยาว สำหรับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ฝังรากลึกเช่นนี้ โดยเจ้าหน้าที่ต้องพิจารณาถึงการขยายตัวของ GDP ประกอบกับตัวเลขจ้างงานที่หดตัวลง ซึ่งโดยส่วนตัวผมให้น้ำหนักกับการจ้างงานมากกว่า" ฮอลล์กล่าว
ทั้งนี้ ข้อมูลการจ้างงานเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ชี้วัดความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ โดยอัตราจ้างงานของสหรัฐในเดือนที่ผ่านมาลดลง 247,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับที่ร่วงลงน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551 ขณะเดียวกันอัตราว่างงานก็ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี
ด้านมาร์ติน เฟลดสเตน นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด อดีตหัวหน้าสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวได้ฉลุยหรือไม่นั้นส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในตลาดเงินหรือราคาบ้านซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะปรับตัวลดลงอีกระลอกและจะส่งผลให้เศรษฐกิจหดตัวลงอีกครั้งก็เป็นได้