สถาบัน Royal Institution of Chartered Surveyors (RICS) ระบุว่า สถานการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของอังกฤษในเดือนก.ค.เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากจำนวนนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์เพิ่มมากขึ้นสูงสุดในรอบ 2 ปี ขณะที่มูลค่าบ้านปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
RICS เปิดเผยผลสำรวจความเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามว่า ราคาบ้านร่วงลงมากกว่าที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 8% ซึ่งเป็นระดับที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2550 ขณะที่รายงานอีกฉบับระบุถึงยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ที่เพิ่มขึ้น 1.8% จากปีก่อนหน้านี้
ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยอาจกระเตื้องขึ้น หลังมีรายงานยอดการอนุมัติเงินกู้จำนองบ้านเดือนมิ.ย.ที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน ขณะเดียวกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางอังกฤษได้ขยายโครงการซื้อพันธบัตรอีก 1.75 แสนล้านปอนด์ (2.89 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินและเป็นการตอกย้ำถึงสัญญาณที่ว่าเศรษฐกิจกำลังหลุดพ้นจากจุดต่ำสุดของวิกฤตการณ์ครั้งเลวร้ายได้แล้ว
เจเรเมี่ ลีฟ โฆษกของ RICS กล่าวกับทางบลูมเบิร์กว่า "แม้อุปสงค์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์จะยังคงฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ก็ยังถือว่าต่ำกว่าในช่วงที่ผ่านมา และหากธนาคารยังไม่สามารถปล่อยเงินกู้จำนองได้มากพอที่จะรองรับการขยายตัวของอุปสงค์ ก็อาจมีความเป็นไปได้ว่าราคาบ้านจะตกลงอีกครั้ง โดยเฉพาะหากอัตราว่างงานยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้พุ่งสูง"
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ท่านอื่นกล่าวเสริมว่า "ในระยะนี้อาจเกิดภาวะอุปสงค์ล้นตลาด เมื่อพิจารณาจากจำนวนผู้ซื้อที่กลับเข้ามาในตลาดที่อยู่อาศัย ขณะที่บ้านหมดสต็อกซึ่งภาวะเช่นนี้จะยิ่งกดดันให้อุปสงค์เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงต้นปี"
ทั้งนี้ ธนาคารกลางเปิดเผยว่า ยอดอนุมัติเงินกู้จำนองบ้านในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 47,584 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี ขณะที่ RICS คาดการณ์ว่าราคาบ้านจะเพิ่มขึ้นในปีนี้ หลังจากที่ลดลงจากระดับสูงสุดเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ส่วนอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงก็ยังสร้างแรงจูงใจให้ผู้ซื้อด้วยเช่นกัน