ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบยูโร,ปอนด์ หลัง FED มีมติคงดอกเบี้ย

ข่าวต่างประเทศ Thursday August 13, 2009 07:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ส.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยและยืนยันว่าเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวแล้ว รวมทั้งประกาศขยายเวลาการซื้อพันธบัตรรัฐบาลออกไปจนถึงเดือนต.ค.

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.47% เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรที่ 1.4211 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.4145 ยูโร/ดอลลาร์ และทะยานขึ้น 0.14% เมื่อเทียบเงินปอนด์ที่ 1.6507 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6484 ปอนด์/ดอลลาร์

นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.59% แตะที่ 0.8344 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันอังคารที่ 0.8295 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.97% แตะที่ 0.6736 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6671 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงทันทีหลังจากเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0-0.25% พร้อมระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพ รวมถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคทั้งในส่วนของภาคครัวเรือน และภาคเอกชน นอกจากนี้ เฟดยืนยันว่าจะขยายเวลาการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์ออกไปจนถึงเดือนต.ค. ซึ่งเดิมกำหนดไว้ที่เดือนก.ย.

มาซาฟูมิ ยามาโมโตะ หัวหน้านักวิเคราะห์ด้านปริวรรตเงินตราจากรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ กล่าวกับบลูมเบิร์กว่า ความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของเฟดทำให้นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากที่เคยแห่ซื้อตุนไว้เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในยามที่เศรษฐกิจอยู่ในภาวะถดถอย แต่เมื่อเฟดยืนยันว่าเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวแล้ว นักลงทุนจึงเทขายดอลลาร์จำนวนมาก

กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐอยู่ที่ 1.8068 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. ขณะที่ค่าใช้จ่ายของรัฐบาลประจำเดือนก.ค.พุ่งขึ้นสู่ระดับ 3.3218 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุด เนื่องจากรัฐบาลต้องใช้จ่ายเงินในการต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ายอดขาดดุลงบประมาณจะอยู่ที่ 1.775 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค.

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญๆของสหรัฐ โดยในวันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.ค.และยอดค้าปลีกเดือนก.ค. ส่วนในวันศุกร์จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นเดือนส.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ