บริษัทจัดการกองทุนระดับโลกต่างแห่กันเข้าถือครองสกุลเงินหยวน เพราะเชื่อว่าธนาคารกลางจีนจะปล่อยให้สกุลเงินหยวนแข็งค่าขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี เพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม หลังจากมีเม็ดเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้าสู่จีนจำนวนมากและยอดการปล่อยกู้ภายในประเทศพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
บริษัท ชโรเดอร์ อินเวสท์เมนท์ แมเนจเมนท์, บริษัท เวสเทิร์น แอสเซท เมเนจเมนท์ และบริษัท มาร์ติน เคอร์รี อินเวสเมนท์ แมเนจเมนท์ กล่าวว่า ทั้งสามบริษัทได้เข้าถือครองสกุลเงินหยวนเพิ่มขึ้นในเดือนก.ค.เพราะเชื่อว่าสกุลเงินหยวนที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นจะช่วยให้เม็ดเงินในพอร์ทเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าธนาคารกลางจีนจะปล่อยให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 0.87% ในเร็วๆนี้
ยอดการปล่อยเงินกู้ล็อตใหม่ในจีนพุ่งขึ้นเกือบ 3 เท่า แตะที่ระดับ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งการปล่อยกู้จำนวนมากเช่นนี้ส่งผลให้ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ในจีนพุ่งขึ้น 60% นอกจากนี้ มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 5.85 แสนล้านดอลลาร์ของรัฐบาลจีนยังช่วยหนุนยอดค้าปลีกเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 15.2% ขณะที่ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนพุ่งแตะ 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 30 มิ.ย. หลังจากตัวเลขลงทุนในต่างประเทศของจีนทะยานขึ้นแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนพุ่งขึ้น 71% ทำสถิติตลาดหุ้นที่พุ่งแข็งแกร่งเป็นอันดับ 2 ในเอเชีย
"ยอดค้าปลีก ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ และตลาดหุ้นที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงทำให้เกิดความกังวลว่าจีนอาจเผชิญกับภาวะฟองสบู่ด้านอสังหาริมทรัพย์" นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์เฉินหยินแอนด์ว่านกัว กล่าว
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนก.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 10.8% จากปีก่อน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 10.7% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นผลมาจากยอดการปล่อยกู้และการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาล
ขณะที่ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ของจีนขยายตัวขึ้นในอัตรา 15.2%ต่อปี แตะระดับ 9.937 แสนล้านหยวน หรือ 1.42 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย. บลูมเบิร์กรายงาน