นักเศรษฐศาสตร์คาดเศรษฐกิจยุโรปยังหดตัวต่อเนื่องในไตรมาส 2

ข่าวต่างประเทศ Thursday August 13, 2009 13:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักเศรษฐศาสตร์คาดเศรษฐกิจยุโรปน่าจะหดตัวลงเป็นไตรมาสที่ 5 ติดต่อกันในไตรมาส 2 ของปีนี้ หลังภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยยังคงส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้ามูลค่าสูง และผู้บริโภคยังคงลังเลที่จะใช้จ่ายเงินเนื่องจากอัตราว่างงานยังพุ่งสูงและการปล่อยสินเชื่อก็ยังมีความเข้มงวด

โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า จีดีพีในยูโรโซน หรือ กลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร 16 ประเทศ จะหดตัวลง 0.5% จากไตรมาสแรก ซึ่งสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) จะเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวอย่างเป็นทางการในวันนี้

แม้ตัวเลขดังกล่าวจะลดลงเป็นไตรมาสที่ 5 ติดต่อกัน แต่ก็ยังถือว่าดีที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว ซึ่งในตอนนั้นจีดีพีหดตัวลง 0.4% ส่วนในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว จีดีพีหดตัวลง 1.8% และไตรมาสแรกของปีนี้ร่วงลงมากเป็นประวัติการณ์ถึง 2.5%

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนเชื่อว่าเศรษฐกิจไตรมาส 2 จะหดตัวมากกว่าระดับคาดการณ์ เมื่อพิจารณาจากตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย.ที่น่าผิดหวัง เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจยุโรปมาก โดยจีดีพีไตรมาสแรกร่วงลงถึง 2.5% ก็เพราะสินค้าภาคอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงอย่างรถยนต์และเครื่องจักรกลหนักได้รับความต้องการน้อยลง

ทั้งนี้ ก่อนที่จะมีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจยุโรป นักลงทุนจะได้ทราบตัวเลขเศรษฐกิจของเยอรมนีก่อน ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากคาดการณ์ว่าจะหดตัวลง 0.4% ในไตรมาส 2 ซึ่งถือว่าดีขึ้นมากจากที่ร่วงลง 3.8% ในไตรมาสแรก

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฌอง-คล็อด ทริเช่ ผู้ว่าการธนาคารกลางยุโรป กล่าวว่า มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกกำลังจะฟื้นตัวแล้ว และเศรษฐกิจยุโรปก็กำลังจะเริ่มฟื้นตัวในปีหน้า

ในขณะเดียวกัน ผู้ผลิตจำนวนมากก็กำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวของตลาดเงินอย่างใกล้ชิด และไม่ค่อยสบอารมณ์ที่เงินยูโรกลับมาแข็งค่าเหนือระดับ 1.40 ดอลลาร์ต่อยูโรในเดือนที่แล้ว เนื่องจากเงินยูโรที่แข็งค่าจะทำให้สินค้าในยุโรปมีราคาแพงขึ้นในสายตาต่างชาติ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเยอรมนีจะรอดจากผลกระทบของเงินยูโรที่แข็งค่ามาได้ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วรัฐบาลเยอรมนีเผยว่ายอดส่งออกของประเทศทะยาน 7% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งมากสุดในรอบเกือบ 3 ปี สำนักข่าวเอพีรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ