นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี คาดว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยในปีนี้จะมีไม่ต่ำกว่า 11 ล้านคน หากยังสามารถรักษาระดับการเติบโตได้ใกล้เคียงกับช่วงครึ่งปีแรกที่มียอดนักท่องเที่ยวราว 5.6 ล้านคน
อย่างไรก็ดี นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา แสดงความต้องการที่จะเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้อยู่ที่ 14 ล้านคนตามเป้าหมายเดิมที่เคยวางไว้ ซึ่งทางกระทรวงฯ จะนำเสนอแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงที่เหลือของปีนี้มาให้พิจารณาภายใน 2 สัปดาห์
"ปีนี้ถ้าได้ 14 ล้านคน ไม่ถือว่าปาฏิหาริย์ แต่ถือว่าใช้ได้...รมว.ท่องเที่ยว อยากจะให้เกิน 14 ล้านคน ซึ่งในอีก 2 สัปดาห์ จะเสนอมาตรการมาให้พิจารณา ว่าถ้าจะทำให้(ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติ) เกิน 14 ล้านคน ต้องทำอย่างไร" นายกรัฐมนตรี กล่าวในงานสัมมนา"ปาฏิหาริย์ท่องเที่ยวกับนายกฯ อภิสิทธิ์"
พร้อมเชื่อว่า แนวโน้มการท่องเที่ยวในช่วงที่เหลือของปีนี้จะเริ่มปรับตัวดีขึ้น ซึ่งดูได้จากสัญญาณของจำนวนนักท่องเที่ยวในเดือน ก.ค.52 ที่ติดลบ 9% ถือว่าเริ่มดีขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่เป็นตัวเลขติดลบ 2 หลัก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาการท่องเที่ยวในอนาคต รัฐบาลจะมุ่งเน้นงานด้านการตลาด และการประชาสัมพันธ์มากขึ้น เน้นนักท่องเที่ยวในโซนเอเชียเป็นหลัก โดยจะมุ่งทำให้เกิดความเข้าใจต่อการแก้ไขปัญหาภายในประเทศของไทย เพราะขณะนี้สิ่งที่ต่างชาติกังวลมากที่สุดไม่ใช่เรื่องการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แต่สิ่งที่เป็นความกังวลฝังใจคือเรื่องการชุมนุมปิดสนามบิน
ส่วนการร้องเรียนต่อปัญหาทุจริตต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ในเชิงลบของประเทศไทยนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะเข้าไปดูปัญหานี้ด้วยตัวเอง โดยได้มอบหมายให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี, นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง และนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม เข้าไปรวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้วและให้นำกลับมาเสนอในสัปดาห์หน้า พร้อมยืนยันว่า การที่ลงไปดูปัญหานี้ด้วยตัวเองไม่ใช่การล้วงลูกการทำงานของนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา แต่อย่างใด
นายอภิสิทธิ์ ยังมองว่า การท่องเที่ยวของไทยคงไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น และจำเป็นต้องใช้เวลา โดยเห็นว่ามาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลได้ออกมาสนับสนุนการท่องเที่ยวในก่อนหน้านี้ หากพบว่ามาตรการใดที่มีความจำเป็นและเป็นประโยชน์ก็จะต่ออายุเพิ่มเติม
สำหรับปัญหาการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 นั้น ได้หารือกับนายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข แล้ว ซึ่งประเมินว่าสถานการณ์การระบาดในขณะนี้ถือว่าเป็นช่วงที่มีการระบาดสูงสุดแล้วและน่าจะเริ่มลดลงได้ แต่ทั้งนี้จะต้องรอการประเมินผลในอีก 2 สัปดาห์ว่าการติดเชื้อและการแพร่ระบาดลดลงในทิศทางอย่างไร