แบงก์ชาติเวียดนามเผยเม็ดเงินดอลลาร์ในระบบพุ่งสูง หลังผู้ส่งออกเทขายสกุลเงินสหรัฐ

ธนาคารกลางเวียดนามเปิดเผยว่า ปริมาณเงินหมุนเวียนในรูปสกุลดอลลาร์สหรัฐเพิ่มจำนวนมากขึ้น เนื่องจากผู้ส่งออกเทขายสกุลเงินดังกล่าวและโยกย้ายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งภาวะเช่นนี้ได้ช่วยคลายความวิตกกังวลเรื่องการอ่อนค่าของเงินดองเวียดนามได้ในระดับหนึ่ง

บลูมเบิร์กรายงานอ้างแถลงการณ์ของผู้ว่าการธนาคารกลางเวียดนามที่ระบุบนเว็บไซต์ว่า มาตรการกระตุ้นและเสริมสร้างความแข็งแกร่งในตลาดปริวรรตเงินตราและตลาดเงินได้ทำให้นักลงทุนลดการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยธนาคารกลางจะใช้นโยบายการเงินที่ยืดหยุ่นเพื่อรักษาเสถียรภาพของเงินดองต่อไป

โดยในปีนี้เงินดองอ่อนค่าลง 1.9% และร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 17,862 ต่อดอลลาร์ในวันที่ 23 ก.ค. ท่ามกลางความกังวลว่า ผู้ส่งออกจะถือครองเงินดอลลาร์เพราะคาดว่าจะเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อเร็วขึ้น โดยในช่วงเที่ยงวันนี้ เงินดองเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ระดับ 17,812 ต่อดอลลาร์

นักวิเคราะห์กล่าวว่า หลายฝ่ายกังวลว่าเงินดองของเวียดนามจะอ่อนค่าลง ทำให้นักลงทุนถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหลายบริษัทที่เริ่มเทขายเงินดอลลาร์ออกมามากขึ้น เพราะดูเหมือนว่าอัตราแลกเปลี่ยนเงินดองกับเงินดอลลาร์จะอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ"

ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา ธนาคารได้ซื้อเงินดอลลาร์ 221 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าที่เทขายไป 71 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่เมื่อช่วง 2 เดือนก่อน เวียดนามมีกระแสเงินดอลลาร์ไหลเข้าจากการลงทุนต่างประเทศมากขึ้นด้วยเม็ดเงินราว 7-8 ล้านดอลลาร์ที่เข้าสู่ระบบในแต่ละวัน

ทั้งนี้ เมื่อปีที่ผ่านมาเงินดองของเวียดนามอ่อนค่าลง 8.5% หลังจากอัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงสุด 28.3% ในเดือนส.ค.ซึ่งเป็นการปรับตัวสูงสุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในเอเชีย ขณะเดียวกันมีความเป็นไปได้ว่า ราคาผู้บริโภคอาจไต่ระดับขึ้นแตะที่ 6.7% ในปลายปีนี้