สมาคมเหล็กและเหล็กกล้าจีนคาดว่า ราคาเหล็กที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในจีน รวมถึงโรงเหล็กที่เร่งการปรับปรุงการผลิต จะทำให้เกิดภาวะอุปทานล้นตามมามากขึ้น โดยการลงทุนในสินทรัพย์คงที่ของอุตสาหกรรมการผลิตเหล็กช่วงเดือนม.ค. - พ.ค.คิดเป็นมูลค่า 9.67 หมื่นล้านหยวน และคาดว่า ความสามารถในการแปรรูปสินแร่เหล็กจะเพิ่มขึ้น 68.4 ล้านตัน ความสามารถในการแปรรูปเหล็กจะอยู่ที่ 57.98 ล้านตัน เหล็กรีดร้อน 68.39 ล้านตัน และเหล็กเส้น 14.4 ล้านตัน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผลผลิตของบริษัทเหล็กขนาดกลางและขนาดเล็กภายในประเทศเมื่อเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 30.66% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ซู เหลอเจียง ประธานคณะกรรมการบริษัท เป่าชาน ไอรอน แอนด์ สตีล กล่าวว่า แม้ว่าราคาเหล็กและผลผลิตจะสูงขึ้น แต่ดีมานด์เหล็กในอุตสาหกรรมปลายน้ำยังไม่มีความแน่นอน
ปัจจุบัน สำรองเหล็กม้วนรีดร้อนในเซี่ยงไฮ้มีอยู่ 850,000 ตัน เมื่อเทียบกับระดับปกติที่ 5-6 แสนตัน
ซู เซียงชุน หัวหน้านักวิเคราะห์ของ MySteel.com กล่าวว่า ความสามารถในการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการทำให้กำไรหดตัวลง ดังนั้น จีนจึงควรที่จะควบคุมอุตสาหกรรมสินแร่เหล็กต้นน้ำอย่างเข้มงวด และผลักดันให้มีการควบรวมและซื้อกิจการบริษัทเหล็ก
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนเตรียมเปิดเผยกฎระเบียบในการกำกับดูแลการควบรวมและซื้อกิจการบริษัทเหล็กในเดือนก.ย.นี้