ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐในเดือนก.ค. ปรับตัวสูงขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน ซึ่งเป็นผลมาจากการผลิตที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมยานยนต์ และยิ่งตอกย้ำความเชื่อมั่นว่าภาวะถดถอยที่เลวร้ายที่สุดใกล้จบสิ้นลงแล้ว
การปรับตัวสูงขึ้นดังกล่าวนำโดยผู้ผลิตยานยนต์ เนื่องจากในเดือนก.ค. เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) และไครสเลอร์ กรุ๊ป ได้กลับมาเปิดดำเนินการผลิตที่โรงงานหลายแห่งที่ถูกปิดไปชั่วคราวในระหว่างที่ทั้งสองบริษัทปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อให้พ้นจากภาวะล้มละลาย
นอกจากนี้ ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐประจำเดือนก.ค.พุ่งขึ้นแตะ 11.2 ล้านคันต่อปี เพิ่มขึ้นจากระดับ 9.7 ล้านคันในเดือนมิ.ย. หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศใช้โครงการ ''cash-for-clunkers'' หรือการนำรถยนต์เก่าแบรนด์ดังมาแลกรถยนต์คันใหม่ มูลค่าโครงการ 1 พันล้านดอลลาร์ เพื่อดึงดูดผู้บริโภคให้หันมาซื้อรถยนต์มากขึ้น โดย
เฟดเผยว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนก.ค.ของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงผลผลิตในอุตสาหกรรมเหมืองแร่และสาธารณูปโภค เพิ่มขึ้น 0.5% ซึ่งมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3 - 0.4% และดีกว่าเดือนมิ.ย.ที่ร่วงลง 0.4% และถ้าไม่ร่วมการผลิตยานยนต์ ตัวเลขการผลิตขยายตัว 0.2% โดยได้อานิสงส์จากการผลิตอุปกรณ์ด้านอากาศยาน คอมพิวเตอร์และสินค้าอิเล็คทรอนิคส์ และพลาสติกส์ที่เพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ผลผลิตในอุตสาหกรรมเหมืองแร่เพิ่มขึ้น 0.8% แต่ผลผลิตด้านสาธารณูปโภคลดลง 2.4%