จีนได้ยกเลิกการเทคโอเวอร์โรงงานผลิตเหล็กของรัฐบาลอีกครั้งในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่เกิดเหตุประท้วงโดยพนักงานบริษัท หลินโจว ไอรอน แอนด์ สตีล ในมณฑลเหอหนานประมาณ 400 ราย และมีการจับตัวเจ้าหน้าที่รัฐไว้เป็นตัวประกันเป็นเวลานาน 4 วัน เพราะไม่พอใจที่บริษัท เฟงปัว ไอรอน แอนด์ สตีล รุกซื้อกิจการของบริษัท แต่ต่อมาได้มีการปล่อยตัวเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว เพราะรัฐบาลและพรรคคอมมิวนิสต์ตกลงที่จะเข้ามายุติการเทคโอเวอร์กิจการครั้งนี้
บลูมเบิร์กรายงานว่า เมื่อเดือนที่แล้ว มณฑลจีหลินก็ได้ยกเลิกแผนการเทคโอเวอร์โรงเหล็กหลังจากที่ผู้บริหารของบริษัทถูกสังหารเพราะพนักงานที่โกรธแค้น ขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์ของจีนต้องการที่จะรักษาความสงบสุขในสังคมไว้ ก่อนที่จะถึงวันครบรอบ 60 ปีแห่งการสถาปนาประเทศในวันที่ 1 ต.ค.นี้
หวาง เออร์ผิง นักวิจัยของสถาบันวิทยาการวิทยาศาสตร์ของจีน กล่าวว่า นับตั้งแต่มหกรรมโอลิมปิกปักกิ่งเมื่อปีที่แล้ว รายงานข่าวเรื่องการประท้วงมีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ที่รัฐบาลกำลังพยายามสร้างความโปร่งใสมากกว่าเดิมเพื่อกำจัดข่าวลือต่างๆนานา โดยเหตุการณ์ประท้วงในปีที่แล้วมีจำนวนมากขึ้นถึง 90,000 ครั้ง เมื่อเทียบกับปี 2550 ที่มีการประท้วง 80,000 ครั้ง สำหรับในปีนี้คาดว่า เหตุการณ์ประท้วงจะไม่บรรเทาเบาบางลง โดยในมณฑลเหอหนานนั้น รัฐบาลต้องออกมาประกาศว่า หากจะมีการปรับโครงสร้างในเชิงอุตสาหกรรมในรูปแบบใดๆก็จะเป็นต้องมีการประเมินถึงความเสี่ยงในเรื่องความสงบสุขในสังคมด้วย มิเช่นนั้นโครงการนั้นๆก็อาจจะไม่ได้รับการอนุมัติ
เฟงปัว ไอรอน แอนด์ สตีล ได้เสนอซื้อกิจการของหลินโจว์ ไอรอน แอนด์ สตีล มูลค่า 37.9 ล้านดอลลาร์ไปเมื่อวันที่ 24 ก.ค. และได้จ่ายเงินไปแล้ว 180 ล้านหยวน แต่บริษัทจะได้รับเงินดังกล่าวคืนภายในช่วงสิ้นเดือนนี้
ก่อนหน้านี้ ก็เคยเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นเมื่อพนักงานของบริษัท ตงฮัว ไอรอน แอนด์ สตีล กรุ๊ป ในมณฑลจีหลินได้ก่อเหตุประท้วงการเทคโอเวอร์โรงเหล็กของเจียนหลง สตีล โฮลดิ้ง ส่งผลให้มีการสังหารผู้บริหารของบริษัทเจียนหลง ส่งผลให้รัฐบาลต้องออกมายกเลิกการเทคโอเวอร์โรงเหล็กของเจียนหลง