ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งแรง เหตุนลท.แห่ซื้อดอลล์เลี่ยงความเสี่ยง

ข่าวต่างประเทศ Tuesday August 18, 2009 07:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่เข้าถือครองดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่าธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ในสหรัฐจะชะลอการปล่อยกู้ไปจนถึงช่วงครึ่งหลังของปีหน้า ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนแห่ซื้อดอลลาร์อย่างคับคั่ง

บลูมเบิร์กรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้น 0.87% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4078 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.4202 ยูโร/ดอลลาร์ และพุ่งขึ้น 1.22% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.6336 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6538 ปอนด์/ดอลลาร์

นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้น 0.61% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0782 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0717 ฟรังค์/ดอลลาร์ แต่อ่อนตัวลง 0.50% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 94.440 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 94.910 เยน/ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดิ่งลง 1.32% แตะที่ 0.8215 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.8325 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 1.49% แตะที่ 0.6677 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6778 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในยามที่ภาวะเศรษฐกิจยังคงอ่อนแอ โดยยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ของสหรัฐลดลง 0.1% ส่วนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.7% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าอัตราว่างงานที่สูงขึ้นทำให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายสินค้าที่ไม่จำเป็น และข้อมูลดังกล่าวได้สร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุนทั้งในตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐในช่วงต้นเดือนส.ค.ลดลงสู่ 63.2 จาก 66.0 ในเดือนก.ค. ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 68.5 โดยดัชนีร่วงลงเป็นเดือนที่ 2 และดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีนี้

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงหนุนหลังจากผลสำรวจครั้งล่าสุดของเฟดระบุว่ากว่า 20% ของธนาคารพาณิชย์ในประเทศจะยังคงชะลอการปล่อยกู้เพื่อการซื้อบ้านไปจนถึงช่วงครึ่งหลังของปีหน้า

ค่าเงินปอนด์ได้รับปัจจัยบวกหลังจากนายแอนดรูว์ เซนแทนซ์ กรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษกล่าวว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะกลับมาขยายตัวอีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ความเร็วในการฟื้นตัวจะขึ้นอยู่กับผลของการจำกัดการปล่อยสินเชื่อของภาคธนาคาร และภาวะเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ นายเซนแทนซ์กล่าวว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจของอังกฤษฟื้นตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และผลกระทบจากวิกฤติภาคธนาคารกำลังบรรเทาลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ