จีนวางแผนที่จะลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจเหล็กต่างประเทศ ด้วยความหวังที่จะบั่นทอนฐานที่มั่นของกลุ่มผู้ส่งออกสินแร่เหล็กรายใหญ่ของโลกทั้ง 3 ราย ได้แก่ บีเอชพี บิลลิตัน ริโอ ทินโต และเวล หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการเจรจาต่อรองเพื่อขอลดราคาสินแร่เหล็กกับบริษัท ฟอร์สทคิว ของออสเตรเลียลงไป 35%
บลูมเบิร์กรายงานว่า มาร์ค เพอร์แวน นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์อาวุโสของออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงกิ้ง คอร์ป กล่าวว่า บริษัทเหล็กของจีนกำลังใช้ความพยายามเพื่อสลายอิทธพลและอำนาจที่กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มของบริษัทผู้ส่งออกสินแร่เหล็ก และยังหาทางที่จะทำข้อตกลงในลักษณะดังกล่าวให้ได้มากยิ่งขึ้น
ที่ผ่านมา จีนในฐานะที่เป็นประเทศผู้ซื้อสินแร่เหล็กรายใหญ่สุดของโลกได้ลงทุนในโครงการเหล็กทั่วโลก 5.6 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อลดการพึ่งพาเหล็กของเวล ริโอ ทินโต และบีเอชพี บิลลิตัน ซึ่งครองอุปทานสินแร่เหล็กถึง 2 ใน 3 และเมื่อวานนี้ จีนก็ประสบความสำเร็จในการเจรจาเพื่อขอลดราคาลงหลังจากที่ใช้เวลาในการเจรจานานถึง 7 เดือน
ทางด้านทิม ชโรเดอร์ ผู้บริหารของเพนกาน่า แคปิตอล กล่าวว่า จีนต้องการที่จะได้เห็นบีเอชพี ริโอ ทินโต และเวล มีอุปทานลดลง อีกทั้งยังต้องการลดความแข็งแกร่งของยักษ์เหล็กทั้ง 3 ราย
สถาบันการเงินของจีนจะเป็นผู้จัดหาเงินให้กับฟอร์ทสคิว 5.5-6 พันล้านดอลลาร์ ตามข้อตกลงในการขายสินแร่เหล็ก ซึ่งเงินส่วนใหญ่จะถูกนไปใช้ในการขยายการผลิต
โจว ซีเจง นักวิเคราะห์ของซิติค ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า ฟอร์ทสคิวและจีนหวังว่าบริษัทเหล็กจะมีโอกาสยุติการผูกขาดสินแร่เหล็กออสเตรเลียโดยบีเอชพีและริโอ ทินโต เนื่องจากทั้ง 2 บริษัทเป็นผู้ผลิตสินแร่เหล็กรายใหญ่สุดของออสเตรเลีย รวมทั้งเป็นผู้ส่งออกสินแร่เหล็กรายใหญ่สุดเช่นกัน
ฟอร์ทสคิว ซึ่งชะลอการขยายเหมืองสินแร่เหล็กเพราะปัญหาทางการเงินและดีมานด์ที่หดตัวลง วางแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 95 ล้านเมตริคตันภายในปี 2555 จากความสามารถในการผลิตปัจจุบันที่ 45 ล้านตัน