FED ชี้แบงค์พาณิชย์ในสหรัฐอาจชะลอการปล่อยกู้จนถึงปีหน้า หลังถูกกระทบจากวิกฤตการเงิน

ข่าวต่างประเทศ Tuesday August 18, 2009 11:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ผลสำรวจความคิดเห็นของธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐซึ่งจัดทำโดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่อาจจะชะลอการปล่อยกู้ไปจนถึงช่วงครึ่งหลังของปีหน้า อย่างไรก็ตาม ธนาคารส่วนใหญ่ยังไม่ต้องการเพิ่มข้อกำหนดในการปล่อยกู้ในระยะนี้

ทั้งนี้ ผลสำรวจระบุว่า ธนาคารส่วนใหญ่จะชะลอการปล่อยกู้ไปจนถึงช่วงครึ่งหลังของปีหน้า แต่ 20% ของธนาคารที่เฟดทำการสำรวจได้เพิ่มข้อกำหนดการปล่อยกู้เพื่อการซื้อบ้านให้กับลูกค้าชั้นดี นอกจากนี้ 35% ของธนาคารในสหรัฐจะเพิ่มมาตรฐานการปล่อยกู้สำหรับผู้ใช้บัตรเครดิต ลดลงจากระดับ 60% ในไตรมาสแรก และลดลงจากระดับ 65% ของปีที่แล้ว

โจเซฟ ลาวอร์ยา หัวหน้านักวิเคราะห์จากดอยช์ แบงค์ ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า "ผลสำรวจครั้งล่าสุดสะท้อนให้เห็นว่าภาวะสินเชื่อในสหรัฐยังคงตึงตัวต่อไป เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการณ์การเงิน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะขัดขวางเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวช้าลง"

บรรษัทประกันเงินฝากแห่งสหรัฐ (Federal Deposit Insurance Corp : FDIC) รายงานว่า ทางการสหรัฐได้ดำเนินการยึดกิจการธนาคารพาณิชย์อีก 5 แห่งในประเทศ ซึ่งธนาคารเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยและอัตราว่างงานที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ส่งผลให้จำนวนธนาคารที่ถูกยึดในสหรัฐปีนี้พุ่งขึ้นเป็น 69 ราย และคาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้อัตราว่างงานในสหรัฐพุ่งขึ้นอีก

FDIC ระบุว่า ธนาคาร 5 แห่งที่ถูกยึดครั้งสุดได้แก่ มิวชวล แบงค์ ออฟ ฮาร์วีย์ ในรัฐอิลลินอยส์ ซึ่งสินทรัพย์ 1.6 พันล้านดอลลาร์, พีเพิลส์ คอมมูนิตี้ส์ แบงค์ ในรัฐโอไฮโอ มีทรัพย์สิน 05. ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ยังมีธนาคาร เฟิร์สท์ แบงค์อเมริกาโน ในรัฐนิว เจอร์ซี, อินทริกิตี้ แบงค์ ในรัฐฟลอริด้า และเฟิร์สท์ สเตท แบงค์ ในรัฐโอกลาโฮมา เอพีรายงาน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ