นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติเห็นชอบการปรับโครงสร้างเงินเดือน และการปรับเงินเดือนพนักงานธนาคารออมสิน ตามที่คณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์พิจารณา
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังเสนอว่าโครงสร้างเงินเดือนและอัตราจ้างของธนาคารออมสินอยู่ในระดับต่ำกว่าธนาคารัฐแห่งอื่น และเมื่อเทียบธนาคารพาณิชย์ 4 แห่ง พบว่าระดับเงินเดือนยังต่ำกว่าด้วย ขณะที่ธนาคารออมสินมีผลการดำเนินงานที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับธนาคารภาครัฐ มีผลกำไรสูงสุดและมีระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)ต่ำสุด เมื่อเทียบกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
สำหรับการปรับโครงสร้างเงินเดือนและการปรับเงินเดือนพนักงานในครั้งนี้ ให้ยกเลิกการใช้บัญชีโครงสร้างเงินเดือน 58 ขั้น และให้ใช้โครงสร้างเงินเดือนใหม่ตั้งแต่ระดับสูงสุด คือ ตำแหน่งรองผู้อำนวยการ ปรับมาใช้อัตราเงินเดือนขั้นต่ำ 110,000 บาท จากเดิม 46,260 บาท และขั้นสูงเป็น 220,000 บาท จากเดิม 113,520 บาท ไปจนถึงพนักงานระดับล่าง คือ พนักงานบริการ 1 ซึ่งจะมีอัตราเงินเดือนขั้นต่ำใหม่ที่ 6,800 บาท จากเดิม 5,510 บาท และขั้นสูง 26,000 บาท จากเดิม 22,860 บาท
ทั้งนี้ การปรับเงินเดือนพนักงานเป็นการปรับเพิ่มในอัตราเปอร์เซ็นต์ของค่ากลางที่เท่ากันทุกระดับโครงสร้างเงินเดือนใหม่ วงเงินไม่เกิน 12.5% ของฐานเงินเดือนพนักงาน ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบเป็นต้นไป
"การปรับเงินเดือนตามโครงสร้างใหม่ เช่น ระดับสูงสุดคือ รองผู้อำนวยการธนาคารจะปรับขึ้นจาก 113,520 บาท เป็น 220,000 บาท ส่วนตำแหน่งผู้อำนวยการธนาคารจะตกลงสัญญาว่าจ้างจากการสรรหาอยู่แล้ว โดยโครงสร้างเงินเดือนใหม่มีข้อตกลงระหว่างกระทรวงการคลังกับธนาคารออมสินว่าจะไม่มีการปรับขึ้นเงินเดือนครั้งใหม่อีกภายในเวลา 5 ปี" นายวัชระ กล่าว
นายวัชระ กล่าวว่า การปรับโครงสร้างเงินเดือนครั้งนี้ ธนาคารจะมีค่าใช้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือนละ 43 ล้านบาท หรือคิดเป็นปีละ 500 ล้านบาท โดยธนาคารได้จัดทำแผนเพิ่มรายได้เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวด้วยการเพิ่มรายได้จากค่าธรรมเนียม 1,500 ล้านบาท และแผนเพิ่มรายได้ดอกเบี้ยและเงินลงทุนอีก 43,370 ล้านบาท