คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน(กรอ.)เตรียมเสนอให้คณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ(ครม.เศรษฐกิจ)สัปดาห์หน้าจัดทำบัญชีรายชื่ออุตสาหกรรมที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตรา 67 ส่วนผู้ประกอบการที่ยื่นขออนุญาตและผ่าน EIA ก่อนศาลปกครองมีคำสั่งนั้น คาดว่าจะสามารถออกใบอนุญาตที่คั่งค้างได้ภายใน 2-3 สัปดาห์
วันนี้ ที่ประชุม กรอ.รับทราบความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ระบุว่าสามารถพิจารณาออกใบอนุญาตให้แก่โครงการ หรือ กิจกรรมที่ได้รับความเห็นชอบการทำรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ได้ ซึ่งไม่เกิน 2-3 สัปดาห์จะสามารถออกใบอนุญาตให้ได้
ขณะที่ กรอ.เห็นว่าควรจัดทำบัญชีรายชื่ออุตสหกรรมที่เข้าข่ายมาตรา 67 เพื่อให้เกิดความชัดเจน โดยจะเสนอให้ครม.เศรษฐกิจพิจารณาก่อน
นอกจากนั้น แนวทางปฏิบัติหลังจากที่ศาลมีคำสั่ง จะให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯบูรณาการการทำงานร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงสาธารณสุขในการผนวกรวมการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ(HIA)เข้ากับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) และการจัดตั้งองค์การอิสระตามมาตรา 67 นั้น ระหว่างที่ยังไม่มีองค์การก็สามารถแต่งตั้งคณะผู้ชำนาญการที่ประกอบด้วยผู้แทนมหาวิทยาลัยและองค์กรสิ่งแวดล้อมทำหน้าที่ไปพลางก่อนได้
การพิจารณาดังกล่าวเป็นผลให้ 13 โครงการอุตสาหกรรมที่ยื่นขออนุญาตขยายโรงงานหรือตั้งโรงงานใหม่ในเขตมาบตาพุดไว้แล้วสามารถเดินหน้าต่อไปได้ด้วย หลังจากที่ต้องหยุดชะงักไปเมื่อศาลปกครองมีคำสั่งให้ประกาศเขตควบคุมมลพิษ และจัดทำแผนจัดการสิ่งแวดล้อมภายใน 120 วัน
อนึ่ง มาตรา 67 วรรคสอง ระบุว่าการดำเนินโครงการหรือกิจการที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ จะต้องมีการศึกษาและประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในชุมชน จัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และต้องให้องค์การอิสระ ให้ความเห็นประกอบก่อน
นายสันติ วิลาศศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) กล่าวว่า ผลการประชุม กรอ.ที่ออกมาในวันนี้น่าจะส่งผลดีต่อการลงทุนในประเทศ ซึ่งขั้นตอนต่อไปต้องรอการจัดทำบัญชีกลุ่มประเภทอุตสาหกรรมที่จะเข้า ครม.เศรษฐกิจในสัปดาห์หน้า
"ผลประชุม กรอ.วันนี้ น่าจะกระตุ้นการลงทุนในประเทศได้อีกมาก โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติที่สอบถามเรื่องนี้เข้ามามาก"นายสันติ กล่าว
นายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สาเหตุที่จะต้องจัดทำบัญชีเนื่องจากที่ผ่านมาเป็นสุญญากาศอยู่ว่าจะใช้ตามมาตรา 67 หรือไม่ ทำให้มีผู้นำข้อกฎหมายนี้มาฟ้องต่อศาลปกครอง ทำให้ต้องชะลอการอนุญาตออกไป เพราะยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ หลังจากทำบัญชีรายชื่ออุตสาหกรรมทั้ง 17 กลุ่มออกมาแล้วจะช่วยแก้ปัญหาได้ เพราะไม่ต้องกังวลว่าในอนาคตอุตสาหกรรมที่จะเสนอขอนุญาตจะขัดกับข้อกฎหมายหรือไม่