ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองคำปิดบวก $5.60 หลังราคาน้ำมันทะยาน

ข่าวต่างประเทศ Thursday August 20, 2009 07:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งและสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง อย่างไรก็ตาม สัญญาโลหะมีค่าประเภทอื่นๆ รวมถึงพัลลาเดียมและโลหะเงินร่วงลง เนื่องจากความกังวลที่ว่าดีมานด์โลหะในจีนจะปรับตัวลดลง

บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 944.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.60 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 933.30-946.80 ดอลลาร์

ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 13.875 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 8.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 1 เซนต์ ปิดที่ 2.7710 ดอลลาร์/ปอนด์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,241.40 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 9.30 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 271.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 55.00 เซนต์

ตลาดทองคำได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าดีมานด์พลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่งแม้เศรษฐกิจยังอ่อนแอ หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่ร่วงลงเหนือความคาดหมาย

อย่างไรก็ตาม ตลาดทองคำได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจของจีน หลังจากกระทรวงพาณิชย์จีนรายงานว่า ตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในเดือนก.ค.ร่วงลง 35.7% จากปีที่แล้ว เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.ที่ลดลง 6.76% และเป็นสถิติที่ร่วงลงติดต่อกันยาวนานถึง 10 เดือน เนื่องจากบริษัทจีนหลายแห่งระงับแผนขยายกิจการเพราะถูกกระทบจากวิกฤตการณ์การเงินโลก

เบน ซิมป์เฟนดอร์เฟอร์ นักวิเคราะห์จากรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ในฮ่องกง กล่าวว่า "ตัวเลข FDI ของจีนที่ร่วงลงเกินคาดสะท้อนให้เห็นถึงภาวะ overcapacity และภาวะสินเชื่อตึงตัวทั่วโลก อีกทั้งสะท้อนถึงเศรษฐกิจที่ผันผวนของจีน นอกจากนี้ การที่ทางการจีนจับกุมตัวผู้บริหารของบริษัท ริโอทินโต ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ของออสเตรเลียไปตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติลังเลที่จะเข้ามาลงทุนในจีน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ