จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐเพิ่มสูงเกินคาดเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวบ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานยังคงเลวร้ายแม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆจะสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจเริ่มมีเสถียรภาพแล้วก็ตาม
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 576,000 ราย ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา จากระดับ 561,000 ราย สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 550,000 ราย
โดยในรัฐเทนเนสซีมีผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสูงสุดจำนวน 2,525 รายในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 8 ส.ค. ขณะที่แคลิฟอร์เนียมีผู้ขอรับสวัสดิการลดลงมากที่สุดอยู่ที่ 5,635 ราย
นักวิเคราะห์คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และจะสามารถหลุดพ้นจากภาวะถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ตลาดแรงงานยังคงซบเซาและนักวิเคราะห์กังวลว่าอัตราว่างงานที่สูงขึ้นอาจส่งผลกระทบให้ผู้บริโภคควบคุมการใช้จ่าย ซึ่งจะเป็นภัยคุกคามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิเคราะห์กำลังจับตาตัวเลขดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพราะมองว่าเป็นตัวชี้วัดสถานการณ์ของภาคเอกชนที่มีต่อการจ้างงานใหม่ๆ
ทั้งนี้ ในส่วนของดัชนีชี้นำเศรษฐกิจประจำเดือนก.ค.ของสำนักงานคอนเฟอเรนซ์บอร์ดปรับตัวสูงขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ด้วยอัตราการขยายตัวที่ 0.6% แต่ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ และช้ากว่าระดับการขยายตัวในช่วง 3 เดือนก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจในอีก 3-6 เดือนข้างหน้าซึ่งบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจได้หลุดพ้นจากภาวะถดถอยและจะเริ่มขยายตัวขึ้นได้ในเร็วๆนี้