เจแปน แอร์ไลน์ส คอร์ป (JAL) สายการบินรายใหญ่สุดของเอเชีย และบริษัท นิปปอน ยูเซน เค.เค. อยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อควบรวมกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศ เพื่อลดต้นทุนด้านต่างๆลงหลังจากที่ความต้องการใช้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศร่วงลง
บลูมเบิร์กรายงานว่า ทั้ง 2 บริษัทได้เริ่มทำข้อตกลงเรื่องการใช้ข้อมูลรหัสร่วมกันเมื่อเดือนมี.ค. ซึ่งมีเป้าหมายที่จะสรุปข้อตกลงให้ได้ภายในวันที่ 1 เม.ย. เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา เจเอแอลขาดทุนในธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ 20% และคาดว่า จะขาดทุนอีกเป็นปีที่ 2 โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะลดต้นทุนด้านต่างๆลง 1.95 แสนล้านเยน หรือ 2.1 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกถดถอยส่งผลให้ดีมานด์การเดินทางระหว่างประเทศร่วงลงอย่างรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2546
โอสึเกะ อิทาซากิ นักวิเคราะห์ของเครดิต สวิส กล่าวว่า การเจรจาดังกล่าวถือเป็นทิศทางการเคลื่อนไหวที่ถูกต้อง สายการบินยังคงจำเป็นต้องทบทวนเรื่องเครือข่ายและฝูงบินในต่างประเทศ
นสพ.นิกเกอิรายงานว่า การควบรวมกิจการแอร์ คาร์โก้ของทั้ง 2 บริษัท เจเอแอลอาจจะประหยัดต้นทุนได้ถึง 2 หมื่นล้านเยน
ทางด้านกระทรวงคมนาคมญี่ปุ่นได้จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือเรื่องการปรับโครงสร้างของเจเอแอล ซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย นักวิชาการซึ่งได้มีการประชุมเป็นครั้งแรกไปเมื่อวานนี้ เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา สายการบินได้รับเงินกู้มูลค่า 1 แสนล้านเยนจากธนาคารเดเวลล็อปเมนท์ แบงค์ ออฟ เจแปน และสถาบันการเงินอื่นๆ หลังจากที่ได้ประกาศแผนการลดต้นทุนของตนเอง