นายมงคล ลีลาธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย เปิดเผยว่า ธนาคารได้ปรับเพิ่มวงเงินสินเชื่อบุคคลที่มีทองคำเป็นหลักประกัน ได้แก่ สินเชื่อ"ทองแลกเงิน"และ"ทองทันใจ"เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการจับจ่ายใช้สอยให้กับประชาชน
ลูกค้าสามารถเลือกวงเงินต่อทองคำ 1 บาทได้ตามความจำเป็น โดยวงเงินสูงสุดถึง 14,000 บาท/ทองคำ 1 บาท อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.39%ต่อเดือน วงเงินสูงสุด 13,500 บาท/ทองคำ 1 บาท อัตราดอกเบี้ย 1.19% ต่อเดือน หรือ วงเงินสูงสุด 12,650 บาท/ทองคำ 1บาท อัตราดอกเบี้ยเพียง 0.99% ต่อเดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.52 เป็นต้นไป
สินเชื่อ"ทองแลกทอง"มีระยะเวลาการกู้ยืม 18 เดือนต่อสัญญา จ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน และสินเชื่อ"ทองทันใจ"ลูกค้านำทองคำมาเป็นหลักประกันเพื่อเปิดวงเงินสดพร้อมใช้ ซึ่งลูกค้าจะได้รับบัตร ATM ที่สามารถเบิกใช้วงเงินผ่านตู้ ATM ของธนาคารและ ธนาคารกรุงไทย(KTB)ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่จำกัดจำนวนครั้ง(ในเขตพื้นที่) และสามารถเบิกใช้วงเงินผ่านตู้ ATM ธนาคารอื่นๆ ทุกธนาคารฟรี 5 ครั้งแรกของเดือน หากไม่กดเงินมาใช้ก็ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย
วงเงินกู้ยืมตั้งแต่ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 2 ล้านบาท/ราย ใช้บริการที่สาขาหรือสาขาย่อยของธนาคารได้ และวงเงินกู้ยืมสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท/ราย ใช้บริการที่สำนักธุรกิจรัชดาภิเษก อาคารไทยประกันชีวิต
"จุดเด่นของสินเชื่อบุคคลที่มีทองคำเป็นหลักประกัน คือ การตรวจสอบเปอร์เซ็นต์ทองคำด้วยเครื่องสแกนทองคำที่ทันสมัย และการเก็บรักษาทองคำของลูกค้าอย่างปลอดภัยในตู้เซฟของธนาคาร ดังนั้น ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าทองคำที่ฝากไว้กับธนาคารจะอยู่ในสภาพสมบูรณ์เหมือนเดิม" นายมงคลกล่าว