แบงก์ ออฟ อเมริกา-เมอร์ริล ลินช์ คาดว่า เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และอินเดียจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนจีน ขณะที่นานาประเทศในภูมิภาคต่างพึ่งพาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน โดยออสเตรเลียและเกาหลีใต้อาจจะขึ้นดอกเบี้ยในไตรมาส 4 และตามมาด้วยอินเดียในไตรมาส 1 ปีหน้า ขณะที่จีนอาจจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในปีนี้และปีหน้า เนื่องจากภาวะการผลิตที่สูงเกินไปของจีนทำให้เงินเฟ้อคงที่ และรัฐบาลเองก็หาทางสกัดการปล่อยเงินกู้ที่ไม่เหมาะสม
บลูมเบิร์กรายงานว่า นักเศรษฐศาสตร์ของเมอร์ริล ลินช์ กล่าวว่า ธนาคารกลางของประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียกำลังเผชิญกับความเสี่ยงในการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินจากจุด "ฉุกเฉิน" ไปเป็น "สนับสนุน" ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินแบบที่ไม่ได้มีการคาดการณ์มาก่อนอาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวและตลาดเงินอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงนโยบายที่ล้มเหลวอาจจะทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อไปทั่ว
เมอร์ริล ลินช์ระบุว่า ประเทศในเอเชียประเทศแรกที่จะขึ้นดอกเบี้ยก่อนใครก็คือ เวียดนาม แต่ยังไม่ได้ระบุเวลาว่าจะเป็นเมื่อใด
ทั้งนี้ เศรษฐกิจจีนดีดตัวขึ้น 7.9% ในไตรมาส 2 จากระดับปีที่แล้ว จากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและยอดการปล่อยเงินกู้ที่พุ่งทะยานขึ้น
รายงานระบุว่า การฟื้นตัวของเอเชียนั้นอยู่ในรูปแบบที่เหมาะสมแล้ว และการยกเลิกมาตรการกระตุ้นทางการเงินแบบฉุกเฉินก็จำเป็นต้องยกเลิกไปก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐจะขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งเราคาดว่าจะเป็นปี 2554
นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า ธนาคารกลางเกาหลีใต้คงจะเตรียมขึ้นดอกเบี้ยก่อนเฟดหากมองแล้วว่าเป็นเรื่องที่จำเป็น แม้ว่าธนาคารอาจจะลังเลที่จะเป็นประเทศแรกในภูมิภาคที่ขึ้นดอกเบี้ยก็ตาม สำหรับอินเดียนั้น ความเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้อมีมากขึ้นและธนาคารกลางอินเดียก็เคยออกมาระบุว่า อาจจะพิจารณาเรื่องการยกเลิกนโยบาย ส่วนจีนนั้นก็มีเหตุผลที่จะคงดอกเบี้ยเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการดึงกระแสเงินเก็งกำไร และการใช้กฎระเบียบในการควบคุมการขยายตัวของเงินกู้ก็มีประสิทธิภาพมากขึ้น