MySteel.com ซึ่งเป็นเว็บไซท์เผยแพร่ข้อมูลด้านอุตสาหกรรมระดับแนวหน้าของจีน เปิดเผยว่า ราคาเหล็กในประเทศจีนเริ่มคลายความร้อนแรงและปรับตัวลงแล้วในช่วงเวลา 20 วันที่ผ่านมา โดยราคาได้ปรับตัวลงถึง 20% หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ราคาเหล็กแท่งร่วงลงสู่ระดับ 4,200 หยวนต่อตัน จากระดับสูงสุดที่ 5,000 หยวนต่อตัน หรือลดลง 16% ขณะที่เหล็กเส้นดิ่งลง 20% สู่ระดับ 3,900 หยวนต่อตัน จากระดับ 4,850 หยวนต่อตัน โดยนักวิเคราะห์ของ MySteel.com ระบุว่าปัจจัยที่ทำให้ราคาเหล็กในจีนลดลงมาจากการที่โรงงานเหล็กรายใหญ่หลายแห่งระบายเหล็กสู่ตลาด นอกจากนี้ การที่เทรดเดอร์นำเหล็กในสต็อกออกมาจำหน่ายก็เป็นอีกปัจจัยที่กดราคาเหล็กร่วงลงด้วย
สมาคมเหล็กและเหล็กกล้าของจีนระบุว่า ราคาเหล็กที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาทำให้ภาวะ oversupply โดยการลงทุนในสินทรัพย์คงที่ของอุตสาหกรรมการผลิตเหล็กช่วงเดือนม.ค. - พ.ค.คิดเป็นมูลค่า 9.67 หมื่นล้านหยวน และคาดว่าความสามารถในการแปรรูปสินแร่เหล็กจะเพิ่มขึ้น 68.4 ล้านตัน ความสามารถในการแปรรูปเหล็กจะอยู่ที่ 57.98 ล้านตัน เหล็กรีดร้อน 68.39 ล้านตัน และเหล็กเส้น 14.4 ล้านตัน
ส่วนยอดการผลิตเหล็กดิบในจีนประจำเดือนก.ค.ทะยาน 13% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 5.86 แสนล้านดอลลาร์ ที่ทำให้ผู้สร้างบ้านและผู้ผลิตรถยนต์มีความต้องการเหล็กมากขึ้น โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานว่า ยอดผลิตเหล็กดิบทะยานแตะ 50.7 ล้านเมตริกตันในเดือนก.ค. สำนักข่าวซินหัวรายงาน