World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Monday August 24, 2009 06:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 ส.ค.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ระยะฟื้นตัวแล้ว ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลและเข้าซื้อหุ้นอย่างคึกคัก นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังดีดตัวขึ้นขานรับยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งในเดือนก.ค.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 155.91 จุด หรือ 1.7% ปิดที่ 9,505.96 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 18.76 จุด หรือ 1.9% ปิดที่ 1,026.13 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 31.68 จุด หรือ 1.6% แตะที่ 2,020.90 จุด

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 73 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 ส.ค.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ระยะฟื้นตัวแล้ว และหลังจากสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งในเดือนก.ค.

บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 98 เซนต์ ปิดที่ 73.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 74.72-72.03 ดอลลาร์

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 ส.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่ร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากมีรายงานว่าภาคบริการของเยอรมนีและฝรั่งเศสขยายตัวเกินคาด นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงหนุนจากรายงานยอดขายบ้านที่พุ่งขึ้นเกินคาดในสหรัฐ

บลูมเบิร์กรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 13 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 954.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 939.20-959.90 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 ส.ค.) หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่าเศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ระยะฟื้นตัว และยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค.สหรัฐที่พุ่งขึ้นเกินคาด ทำให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์และหันเข้าเทรดในตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงน้ำมันและทองคำ ขณะที่สกุลเงินยูโรทะยานขึ้นหลังจากเยอรมนีและฝรั่งเศสรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด

บลูมเบิร์กรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลง 0.60% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4334 ยูโรต่อดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.4248 ยูโรต่อดอลลาร์ และอ่อนตัวลง 0.11% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.6486 ปอนด์ต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.6504 ปอนด์ต่อดอลลาร์

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 ส.ค.) ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งในรอบกว่า 1 เดือน จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทะยานขึ้นเหนือระดับ 73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนทะยานขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของเยอรมนีและฝรั่งเศส

บลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 94.31 จุด หรือ 2% ปิดที่ 4,850.89 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ