สภาพัฒน์ ปรับคาดการณ์ GDP ปี 52 เป็นติดลบ 3.0-3.5%, ปี 53 โต 2-3%

ข่าวเศรษฐกิจ Monday August 24, 2009 10:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์)กล่าวว่า สภาพัฒน์ปรับคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP)ปี 52 เป็นติดลบ 3.0-3.5% จากเดิมคาดว่าจะติดลบ 3.5-2.5% หลังพบว่าเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะฟื้นตัวในไตรมาสแรกของปีนี้ ประกอบกับเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองในเดือน เม.ย.52

ส่วนปี 53 คาดว่าเศรษฐกิจจะพลิกฟื้นขึ้นมาเติบโตได้ประมาณ 2-3%

"ไตรมาสแรกของปีนี้เป็นช่วงที่เศรษฐกิจโลกฟุบไปมากกว่าปีก่อน ประกอบกับมีเหตุการณ์(ความรุนแรงทางการเมือง)เดือนเมษาฯเข้ามา เพราะฉะนั้นเพื่อให้มีโอกาสความเป็นไปได้มากถึง 90% จึงได้ปรับฐานล่างของ GDP เป็นลบ 3% ถึงลบ 3.5% จากเดิมลบ 2.5 ถึงลบ 2.5% ซึ่งเมื่อเทียบกับหลายหน่วยงานแล้ว ตัวเลขของเรายังอยู่ในเชิง progressive" นายอำพน กล่าว

เลขาธิการสภาพัฒน์ กล่าวว่า ความเป็นไปได้ของ GDP ปีนี้น่าจะอยู่ในช่วงฐานที่ประมาณการไว้ คือ ติดลบ 3.1% แต่ยังไม่ครอบคลุมถึงปัจจัยลบจากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง เพราะหากเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นอีกเหมือนช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา สภาพัฒน์อาจต้องปรับประมาณการอีกครั้ง

สำหรับภาวะเศรษฐกิจรายไตรมาสนั้น สภาพัฒน์ มองว่า ช่วงไตรมาส 3/52 เศรษฐกิจมีแนวโน้มหดตัวน้อยลงกว่าไตรมาส 2/52 ซึ่งอยู่ในระดับ 4.9% และช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ GDP จะกลับมาขยายตัวในแดนบวกได้อย่างแน่นอน

ปัจจัยที่จะช่วยให้เศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายของปีฟื้นตัวกลับมาเป็นบวก ได้แก่ 1.การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 2.การเร่งรัดการใช้จ่ายภาครัฐในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ 52 ให้ได้ตามเป้าหมายที่ 94% และเตรียมการให้มีการเบิกจ่ายงบประมาณปี 53 ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง 3.การเร่งลงทุนตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 4.เร่งรัดการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 5.การประกันราคาสินค้าเกษตรในช่วงที่ราคาตกต่ำ และ 6.การดูแลค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ