ออสเตรเลียอาจจะมีแนวโน้มที่จะผลิตข้าวสาลีไม่ได้ตามเป้าที่รัฐบาลตั้งไว้ หากไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่ปลูกธัญพืชทางภาคตะวันออกของประเทศ แม้ว่า รัฐบาลจะคาดการณ์ว่าปีนี้ออสเตรเลียจะมีผลผลิตธัญพืชสูงสุดในรอบ 4 ปี
ลุค แมทธิว นักวิเคราะห์ด้านการเกษตรของคอมมอนเวลท์ แบงค์ ออฟ ออสเตรเลีย กล่าวว่า สภาพอากาศที่แห้งแล้งมากในพื้นที่ทางตอนเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์และควีนส์แลนด์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจะทำให้แนวโน้มการผลิตลดลง ตอนนี้พื้นที่ต่างๆในออสเตรเลียต้องการฝนจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีฝนตกลงมา
สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ระบุว่า ผลผลิตข้าวสาลีในรัฐทางตะวันออกของออสเตรเลียอาจจะหดตัวลง 25% หากเกิดปรากฏการณ์เอลนินโญ่ในปีนี้ ตอนนี้เกษตรกรต้องการให้ฝนตกลงมาเพื่อที่จะได้มีการเพาะปลูกพืชอย่างเพียงพอก่อนที่จะเริ่มฤดูกาลเก็บเกี่ยว ซึ่งจะเริ่มต้นประมาณเดือนพ.ย.
รัฐควีนสแลนด์และนิวเซาท์เวลส์ได้เพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรช่วงฤดูหนาวมากที่สุดในรอบกว่า 14 ปี เมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ออสเตรเลียสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เป็นจำนวนมากนับตั้งแต่ปี 2548-2549
โรโบแบงค์ กรุ๊ป ระบุในรายงานว่า แนวโน้มการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีของออสเตรเลียจะมีความชัดเจนขึ้นในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า หากมีฝนตกลงมา โดยเฉพาะในพื้นที่ทางชายฝั่งตะวันออก และคาดการณ์ว่า การผลิตข้าวสาลีของออสเตรเลียจะอยู่ที่ 22.8 ล้านเมตริคตัน ซึ่งสูงกว่าที่สำนักงานของออสเตรเลียได้คาดการณ์ไว่ที่ 22 ล้านตัน
รัฐบาลรัฐนิวเซาท์เวลส์ระบุว่า ฝนเป็นสิ่งที่สำคัญมากในช่วง 10-14 วันข้างหน้าสำหรับรัฐนิวเซาท์เวลส์ซึ่งเป็นผู้ปลูกธัญพืชรายใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ หากไม่มีฝนตกลงมาภายใน 2 สัปดาห์นี้ก็จะส่งผลกระทบต่อผลผลิตและการเก็บเกี่ยว