รายงานจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การเปิดให้เอกชนเสนอราคาซื้อสินค้าเกษตรในสต๊อกรัฐบาล ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลัง ในรูปแบบใหม่ในวันนี้ (24 ส.ค.) เป็นวันแรก พบว่า มีเอกชนยื่นซองเสนอราคากับกรมการค้าต่างประเทศทั้งสิ้น 78 ราย แบ่งเป็นข้าวโพด 67 ราย และมันสำปะหลัง 11 ราย ซึ่งจะนำเข้าสู่ขั้นตอนกระบวนการต่อไป
ปริมาณข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่เปิดขายครั้งนี้มีจำนวน 793,000 ตัน เป็นการจำหน่ายเพื่อใช้ในประเทศ 290,000 ตัน และจำหน่ายเพื่อส่งออก 503,000 ตัน
ส่วนมันสำปะหลังเปิดขาย 1.32 ล้านตัน แบ่งเป็นแป้งมัน 749,000 ตัน ในจำนวนนี้เพื่อใช้ในประเทศ 249,000 ตัน และเพื่อส่งออก 499,000 ตัน และมันเส้นอีก 571,000 ตัน แบ่งเป็นเพื่อใช้ในประเทศ 210,000 ตัน และเพื่อส่งออก 352,000 ตัน
สำหรับการเปิดขายสินค้าเกษตรในสต็อกรัฐบาลแบบใหม่นี้จะไม่มีการเปิดเผยราคาที่เอกชนเสนอซื้อ ต้องรอจนกว่าการเจรจาต่อรองราคาเรียบร้อยแล้ว เพราะเกรงว่าจะทำให้ภาคเอกชนฮั้วราคาเพื่อต่อรองกับภาครัฐจนไม่ได้ราคาตามเป้าหมาย จึงได้เปลี่ยนรูปแบบการขายเพื่อลดปัญหาถูกกดราคาซื้อในช่วงเจรจาต่อรอง เพราะจะไม่มีเอกชนรายใดทราบว่าคู่แข่งเสนอราคาและต่อรองกันอย่างไร จึงเชื่อว่าวิธีการขายแบบใหม่จะทำให้รัฐขายสินค้าได้ราคาดีกว่าการเปิดประมูลแบบเดิม
ทั้งนี้ การเปิดขายรูปแบบใหม่จะเปิดให้ผู้สนใจยื่นซองเสนอราคาทุกวันจันทร์ของสัปดาห์ และเปิดซองในวันอังคาร ส่วนในวันพุธ และพฤหัสบดีต่อรองราคา และในวันศุกร์นำเสนอผลการต่อรองต่อนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ก่อนสนอนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีและในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แห่งชาติ และมันสำปะหลังแห่งชาติพิจารณา หลังจากนั้นจะเสนอขอความเห็นชอบต่อที่ ครม.ต่อไป จากเดิมที่จะเป็นการเชิญชวนให้เอกชนสนใจยื่นซองเสนอราคา เปิดซองและต่อรองราคาเสนอซื้อ